BEAUTY เดินหน้าลดขาดทุน ลุยตลาดทั้งในและต่างประเทศเพิ่มยอดขาย

145

มิติหุ้น  –  BEAUTY เผยผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 65 รายได้รวม 262.34 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 55.36 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 23.46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แนวโน้มไตรมาส ธุรกิจปรับตัวดีขึ้น ยอดขายทยอยฟื้นทุกช่องทางจำหน่าย เดินหน้าพัฒนาช่องทางจำหน่ายทุกรูปแบบ บุกตลาดทั้งในและต่างประเทศ ปั๊มยอดขาย

 

ดร.พีระพงษ์  กิติเวชโภคาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (มหาชน) (BEAUTY) ผู้ดำเนินธุรกิจจำหน่ายปลีกผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวภายใต้แนวคิด Live a Beautiful Life เปิดเผยว่า  ผลประกอบการงวด 9 เดือนปี 65 บริษัทมีรายได้รวม 262.34 ล้านบาท ลดลง 10.93% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 294.52  ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 55.36 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 72.33  ล้านบาท หรือขาดทุนลดลง 23.46%

ขณะที่ ผลประกอบการไตรมาส 3/65 บริษัทมีรายได้รวม 68.65 ล้านบาท ลดลง 8.92 % จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 75.37  ล้านบาท และลดลง  15.23% จากไตรมาส 2/65  ที่มีรายได้รวม 80.98 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 26.64 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 2/65  ที่มีขาดทุนสุทธิ 25.80 ล้านบาท  โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากตลาดต่างประเทศ  23% ตลาดในประเทศ 77%

สำหรับผลประกอบการงวด 9 เดือน มีผลขาดทุนลดลงเนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขาย และการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยอดขายผลิตภัณฑ์ใหม่รูปแบบต่างๆ ในประเทศ เริ่มมีกระแสตอบรับดีขึ้นในทุกช่องทาง ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 3/65 รายได้ของบริษัทหากเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อน ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศชะลอตัว โดยเฉพาะตลาดหลักในประเทศจีน ซึ่งยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และกำลังซื้อที่ชะลอตัวจากค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น

ดร.พีระพงษ์ กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจช่วงไตรมาส 4/65  ว่า บริษัทมุ่งเน้นการเพิ่มยอดขายตลาดในประเทศ โดยทำการปรับรูปแบบผลิตภัณฑ์ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Health & Beauty และผลิตภัณฑ์บำรุง ดูแล ที่มีความจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น

ส่วนช่องทางจำหน่ายยังคงเดินหน้าขยายช่องทางสินค้าอุปโภค (consumer product ) ไม่ว่าจะเป็นโมเดิร์นเทรด เช่น บิ๊กซี โลตัส ท๊อป วัตสัน CJ Express ฯลฯ และเจอร์เนอร์รัลเทรด กระจายสินค้าผ่านตัวแทนจำหน่ายไปสู่ร้านค้าปลีกในระดับอำเภอ โดยปรับรูปแบบสินค้าให้มีขนาดและราคา ที่เหมาะสมกับกำลังซื้อ ความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายที่มีศักยภาพในพื้นที่ต่างๆ

ขณะที่ร้านค้าปลีก BEAUTY BUFFET SHOP รูปแบบใหม่จำนวน 8 แห่ง และจุดจำหน่ายเครื่องสำอาง GINO McCRAY ในร้านค้าพันธมิตร EVEANDBOY 5 แห่ง มีกระแสตอบรับดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยอดขายเติบโตขึ้นทุกจุดจำหน่าย ทั้งนี้บริษัทมีแผนขยายช่องทางจำหน่ายและปรับปรุงทั้ง 2 ช่องทางดังกล่าวเพิ่มเติม โดย จะทยอยปรับปรุง BEAUTY BUFFET SHOP อย่างต่อเนื่อง ขณะที่จุดจำหน่ายเครื่องสำอาง GINO McCRAY จะเปิดเพิ่มให้ครบ 18 แห่งภายในปีนี้

ส่วนช่องทางตลาดต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีสินค้าวางจำหน่ายใน 13  ประเทศ ประกอบด้วย จีน ซาอุดิอาระเบีย  ฮ่องกง ไต้หวัน อินโดนีเซีย กัมพูชา เวียดนาม พม่า ลาว มาลเซีย  ฟิลิปปินส์ อินเดีย ญี่ปุ่น ยอดขายในกลุ่มประเทศดังกล่าวมีสัญญาณที่ดีขึ้นเป็นลำดับ โดยในช่วงต้นไตรมาส 4 ยอดสั่งซื้อจากตลาดหลักในประเทศจีนทยอยปรับตัวดีขึ้น หลังจากชะลอตัวอย่างมากในไตรมาส 3 ซึ่งบริษัทมีแผนขยายตัวแทนจำหน่ายในประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อกระจายสินค้าและเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp