มิติหุ้น – บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KISS ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3/2565 โดยรายได้จากการขาย เติบโต 49.3% จากปีก่อนหน้า จากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดเมืองรวมทั้งสถานการณ์การแพร่ระบาดที่สามารถควบคุมได้ สะท้อนภาพรวมกลุ่ม Personal & Health care ที่เติบโต นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ สเปรย์พ่นจมูกที่ช่วยดักจับและยับยั้งเชื้อโควิด-19 เป็นรายแรกของไทยและของโลก ไปเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน ส่งผลให้ไตรมาสนี้มีการรับรู้รายได้จากธุรกิจดังกล่าวหนุนภาพรวมกำไรเติบโต 58.4% จากปีก่อน
นางวรวรรณ ไชยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ KIS) ผู้นำด้านสุขภาพและความงามแห่งเอเชีย เปิดเผยว่า ผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3/2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 234.9 ล้านบาท เติบโต 49.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากภาพรวมรายได้ของแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง นำโดยกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Rojukiss Skincare ที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง Sis2Sis ที่เติบโตขึ้นเกือบ 2 เท่า จากการเปิดประเทศ ส่งผลให้การใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามภาพรวมเติบโต โดยยอดขายที่เติบโตหลักมาจากการเพิ่มสินค้าใหม่ กว่า 21 SKUs เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ตั้งไว้ โดยช่องทางจำหน่ายในร้านค้าทั่วไป (General Trade) และร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (General Trade) เติบโต 100.8%, 36.6% ตามลำดับ จากการเร่งขยายสินค้ารวมถึงการเพิ่มช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุมและเข้าถึงผู้บริโภค ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาสนี้เท่ากับ 36.9 ล้านบาท เติบโต 58.4% จากปีก่อนหน้า จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เดิมและผลิตภัณฑ์ใหม่ การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมและเข้าถึงผู้บริโภค การจัดทำแผนการตลาดที่เหมาะสม รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับภาพรวมแผนการดำเนินงานในไตรมาส 4/2565 เพื่อรองรับการที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ในการเข้าสู่ช่วง High season ของการใช้จ่ายในช่วงเทศกาล บริษัทฯ ยังคงแผนการขยายสินค้าใหม่อีก 15-20 SKUs โดยยังคงเป็นการเน้นการขยายสินค้าในแบรนด์ Rojukiss และ Sis2Sis เป็นหลัก ทั้งนี้ คาดการณ์ยอดขายในไตรมาสที่ 4/2565 จะเป็นยอดขายที่กลับมาสู่ระดับก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 (Pre-COVID) ซึ่งนอกจากการนำเสนอสินค้าใหม่ บริษัทฯ ยังมีการปรับกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นการทำการตลาดผ่านสื่อ Digital เพื่อสร้าง Brand Awareness และการเป็นแบรนด์ Top of Mind สำหรับผู้บริโภคตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บริษัทฯ มองภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 บริษัทมุ่งมั่นเดินตามพันธกิจและวิสัยทัศน์ของบริษัทด้วยการเดินหน้าพัฒนาสินค้าในการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า เน้นการสร้างเอกลักษณ์และการสร้าง Brand Awareness โดยยังคงเน้นการขยายในแบรนด์ Rojukiss สำหรับตอบโจทย์ “ปัญหาผิวแก้ยาก” ของลูกค้า นำเสนอสินค้าคุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้ (Premium Mass) นอกจากนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแผนระยะยาวของบริษัทฯ ในการก้าวขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำด้านผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพครบวงจรแห่งเอเชีย ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ VAILL COVITRAPTM Anti-CoV Nasal Spray สเปรย์พ่นจมูกสำหรับดักจับและยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางกายภาพเป็นรายแรกของไทยและของโลก ซึ่งได้เริ่มวางจำหน่ายสินค้าตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/2565 และได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค บริษัทจึงมีเป้าหมายในการขยายสินค้าออกสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่อรุกตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างเต็มกำลัง รวมถึงการวางแผนการขยายผลิตภัณฑ์สินค้าอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการดูแลสุขภาพและเน้นการนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ในการต่อยอดสินค้าโดยอาศัยพาร์ทเนอร์ที่เชี่ยวชาญในด้านสุขภาพ ที่จะมีส่วนในการเสริมสร้างการเติบโตให้กับบริษัทได้อย่างเข้มแข็ง
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp
