“KTMS” โชว์ศักยภาพผู้นำการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมครบวงจร จ่อโรดโชว์ นลท. 21 พ.ย.นี้ พร้อมเข้าเทรด mai ส่งท้ายปี

143

มิติหุ้น  –  นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด  (มหาชน) หรือ “KTMS” เปิดเผยว่า บริษัทฯ  เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบครบวงจร (One-stop Services) รายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมี 3 บริษัทย่อย เป็นตัวขับเคลื่อนองค์กรสู่ความสำเร็จ ประกอบด้วย 1.) บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (“IRV”) ประกอบธุรกิจการให้บริการออกแบบ ติดตั้งระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ ระบบบำบัดสำหรับน้ำเสียสำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และการบำรุงรักษาระบบ, การผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาไตเทียม, การให้บริการออกแบบ และตกแต่งสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และการออกแบบ ประกอบ และจัดจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์สำหรับสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม

  2.) บริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด (“MV”) ให้บริการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ รวมทั้งบริการดูแลบำรุงรักษาระบบ และ 3.)บริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด (“NEP”) ให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมทั้งในรูปแบบคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียม และหน่วยไตเทียมในโรงพยาบาล โดยจะเป็นการร่วมมือกับอายุรแพทย์โรคไตในพื้นที่เป็นหลัก เพื่อทำให้อายุรแพทย์โรคไตรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของร่วม อีกทั้งจะได้รับสิทธิประโยชน์จากนโยบายสนับสนุน SME ของภาครัฐ จากการเพิ่มโอกาสให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ SME ในการประมูลงานโครงการกับภาครัฐ

ปัจจุบันบริษัทฯมีหน่วยไตเทียมครอบคลุมทั่วประเทศ โดยผ่านการสนับสนุนจากโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐ อาทิ โครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนงบบริการผู้ป่วยเรื้อรังจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่สนับสนุนให้ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ที่มีสิทธิทุกรายสามารถร่วมตัดสินใจเลือกวิธีการล้างไต เป็นแบบฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมร่วมกับแพทย์ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้มีจำนวนผู้ป่วยใช้บริการกับกลุ่มบริษัทฯมากยิ่งขึ้น

“จาก “Inspiration From Hope” ในการดูแลผู้ป่วยที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้เกิดความมุ่งมั่นในการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบครบวงจร (One-stop Services) และก้าวสู่ผู้นำที่ให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเพียงไม่กี่รายที่สามารถให้บริการได้อย่างครบวงจร พร้อมกันนี้กลุ่มบริษัทฯได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาลรัฐ ซึ่งมีการต่อสัญญาการให้บริการมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 5 ปี รวมถึงบริษัทย่อยที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ และระบบบำบัดน้ำเสีย  สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม  มามากกว่า 20 ปี จึงทำให้กลุ่มบริษัทฯสามารถให้บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างมีคุณภาพ เป็นไปตามมาตรฐานระดับประเทศและระดับสากล”

ดังนั้นการระดมทุนในครั้ง เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านการบริการของ KTMS ที่จะดูแลผู้ป่วยได้ทั่วถึงมากขึ้น โดยเม็ดเงินที่ได้ไปใช้ลงทุนในสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมถึงโครงการลงทุนในโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียม และศูนย์บริการวิศวกรรม และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจการลงทุนอื่น ๆ และยังสะท้อนถึงศักยภาพความแข็งแกร่งด้านการบริการของกลุ่มบริษัทฯ ได้อย่างครบวงจรมีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล

 ด้านนายศุภณัฐ พร้อมศิริพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน “KTMS” กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของ “KTMS” ในช่วงปี 2562-2564 และงวด 9 เดือนปี 2565 ทางกลุ่มบริษัทฯมีรายได้จากการขายและบริการเท่ากับ 182.64 ล้านบาท 212.54 ล้านบาท 310.30 ล้านบาท และ 277.32 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีรายได้หลักมาจากการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม จากการขยายจำนวนสาขาสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563 กลุ่มบริษัทฯมีสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม เป็นจำนวน 14 สาขา เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีสาขาอยู่ 7 สาขา และมีเครื่องไตเทียม จำนวน 156 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มีอยู่ 74 เครื่อง ส่วนในปี 2564 กลุ่มบริษัทฯมีสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม จำนวน 18 สาขา เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 4 สาขา และมีเครื่องไตเทียม จำนวน 228 เครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2563 จำนวน 72 เครื่อง

ขณะที่งวดเก้าเดือนปี 2565 กลุ่มบริษัทฯมีสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม จำนวน 20 สาขา เพิ่มขึ้นจากปี 2564 จำนวน 2 สาขา และมีเครื่องไตเทียม 254 เครื่อง เพิ่มขึ้นจาก ปี 2564 จำนวน 26 เครื่อง ส่งผลให้กำไรสุทธิในปี 2562-2564 และงวด 9 เดือนปี 2565 อยู่ที่ 0.56 ล้านบาท, ขาดทุนสุทธิ 26.62 ล้านบาท 16.80 ล้านบาท และ 15.66 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนอัตรากำไรสุทธิ 0.29%, ลดลง 12.52%, 5.41% และ 5.65% ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ จะส่งผลให้บริษัทฯมีโอกาสนำเครื่องมือทางการเงินจากแหล่งทุนมาต่อยอดทางธุรกิจในอนาคตได้

ขณะที่ นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. เคที เมดิคอล เซอร์วิส “KTMS” กล่าวว่า ล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) นับ 1 ไฟลิ่ง “KTMS” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการนำเสนอข้อมูลนักลงทุน(โรดโชว์) ในวันที่ 21 พฤศจิกายนนี้ ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อให้กลุ่มนักลงทุนได้มีโอกาสทราบถึงข้อมูลและทิศทางธุรกิจของ “KTMS” ก่อนที่จะมีการเสนอขายหุ้น IPO ในลำดับถัดไป และคาดว่าหุ้น “KTMS” พร้อมจะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในหมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) ภายในสิ้นปี2565 อย่างแน่นอน

ด้วยศักยภาพความแข็งแกร่งของ “KTMS” ในการเป็นผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบครบวงจรและระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ ที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับสากล ภายใต้การให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis) ในรูปแบบคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียม (คลินิก หรือ Stand-Alone) และหน่วยไตเทียมในโรงพยาบาล (หน่วยไตเทียม หรือ Outsource)  ทั้งในส่วนของโรงพยาบาลรัฐ และกลุ่มลูกค้าเอกชน โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีเครื่องไตเทียมรวม จำนวน 254 เครื่อง มีหน่วยไตเทียม จำนวน 20 สาขา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ทั้งภาคกลางและกรุงเทพมหานคร 2 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 สาขา ภาคเหนือ 4 สาขา ภาคตะวันออก 2 สาขา และภาคตะวันตก 2 สาขา ดังนั้น จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในความเป็นมืออาชีพของ “KTMS” ประกอบกับผลการดำเนินงานที่มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเป็นผู้ประกอบการด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม เพียงไม่กี่รายที่ให้บริการได้อย่างครบวงจร จนก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปีนี้ ยิ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นว่า หากหุ้น “KTMS” เปิดให้มีการเสนอขายหลักทรัพย์ จะได้การตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักลงทุนอย่างแน่นอน

“ KTMS มีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 76.64 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 25.55% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยปัจจุบันบริษัทฯมีทุนจดทะเบียน 150 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น เป็นทุนที่ชำระแล้ว 111.68 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 223.36 ล้านหุ้น”

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp