มิติหุ้น – “บมจ.พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง หรือ PROS” ส่งซิกแนวโน้มผลงาน Q4/65 ดีขึ้น หลังผู้ประกอบการเริ่มกลับมาขยายกิจการเพิ่มขึ้น ชูกลยุทธ์รับงานใหม่ที่มีระยะเวลาสั้น ล็อกราคาก่อนรับงาน เน้นบริหารแรงงานคนพร้อมลดปัญหาแรงงานขาดแคลน “พงศ์เทพ รัตนแสงสรวง” แม่ทัพใหญ่ เผยปัจจุบันตุน Backlog ราว 1,700 ลบ. โดยจะมีการบุ๊ครายได้ในปีนี้อีกราว 400 ลบ. หนุนรายได้ทั้งปีโตตามแผน 10-15% ล่าสุดประกาศงบงวด 9 เดือน รายได้อยู่ที่ 957.63 ลบ. เพิ่มขึ้น 25.83% ขาดทุนสุทธิ 90.12 ลบ. สาเหตุจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง จากราคาวัสดุอุปกรณ์ที่ปรับราคาสูงขึ้นและต้นทุนค่าแรงเพิ่มขึ้นจากการขาดแคลนแรงงาน ด้านบอร์ดชงจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นจัด EGM ขอผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มทุน PP เตรียมพร้อมการลงทุนหรือขยายธุรกิจในอนาคต กำหนดวัน Record Date วันศุกร์ที่ 25 พ.ย.นี้ จัดประชุม EGM ในวันพุธที่ 21 ธ.ค.2565 เวลา 14.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น
นายพงศ์เทพ รัตนแสงสรวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจของบริษัทในช่วงไตรมาส 4/2565 เชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดี โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ลดความรุนแรงลง รวมทั้งบริษัทห้างร้านต่างๆ สามารถปรับตัวให้สามารถดำเนินธุรกิจท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังมีการแพร่ระบาดของโรคได้ ส่งผลให้มีการขยายหรือปรับปรุงกิจการเพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทมีความพร้อมในการเข้าประมูลงานใหม่ๆ ในช่วงที่เหลือของปี 2565 นี้ เน้นงานจากลูกค้าเก่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาคเอกชนและเป็นงานระยะสั้น (เน้นงานโครงการห้างสรรพสินค้าและห้างค้าปลีก) ถัดมาเป็นงานผู้รับเหมาก่อสร้างที่เป็นลูกค้าเก่าของ PROS ที่ตามดูแลมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนภาครัฐ เป็นงานปรับปรุงการใช้พลังงาน เป็นต้น
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ตั้งแต่ไตรมาส 4/65 เป็นต้นไปมีอยู่ที่ประมาณ 1,700 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 400 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานของ PROS อย่างเดียวไม่รวมบริษัทร่วมทุน โดยประเมินว่าเป้าหมายปีนี้ สัดส่วนงานภาครัฐปีนี้จะอยู่ที่ 50% และเอกชน 50% จากเดิมงานภาครัฐอยู่ที่ 30% และงานเอกชน 70%
“งานใหม่ที่รับมาเป็นโครงการระยะสั้น ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนจากความผันผวนของราคาสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการรับงานใหม่เรามีนโยบายเน้นเป็นงานระยะสั้น เก็บเงินได้เร็ว และมีแรงงานพร้อม ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทยังเดินหน้ายื่นประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเป็นงานของกลุ่มห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก คลังสินค้า สำนักงาน คอนโดมิเนียม และได้มีความร่วมมือกับพันธมิตรในการประมูลงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง” นายพงศ์เทพกล่าว
โดยแผนธุรกิจปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10-15% จากปีก่อน กลยุทธ์การเติบโตของบริษัท มีจุดแข็งคือการกระจายกลุ่มลูกค้า การรับงานตรงจากลูกค้าโดยเลือกลูกค้าที่มีฐานะการเงินมั่นคง และงานภาครัฐ รวมทั้งเลือกรับงานในกลุ่มลูกค้าเดิมที่เป็นงานระยะสั้น ได้เงินเร็วและสามารถควบคุมต้นทุนจากความผันผวนของราคาสินค้าได้
ล่าสุดผลประกอบการของบริษัทในงวด 9 เดือน ปี2565 มีรายได้จากการก่อสร้างและงานบริการจำนวน 957.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 196.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 25.83% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้รายได้ตามความสำเร็จของงานก่อสร้างจากฐานงานค้างรับ (Backlog) เช่น กลุ่มอาคารพักอาศัย จากโครงการ The Privacy จตุจักร กลุ่มห้างสรรพสินค้า/ห้างค้าปลีกโครงการ Lotus’s Hypermaket North Ratchaphruek กลุ่มโรงพยาบาล จากโครงการปรับปรุงอาคารนวมินทราชินีและอาคารคัคณางค์ รพ.จุฬาลงกรณ์ และกลุ่มอื่นๆ จากโครงการ งานก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม SMART PARK โครงการ INNSIDE BANGKOK SUKHUMVIT โดยในงวด 9 เดือน มีผลขาดทุนสุทธิ 90.12 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 132.23 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราลดลงร้อยละ 313.99 สาเหตุจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง จากราคาวัสดุและอุปกรณ์ที่ปรับราคาสูงขึ้น และต้นทุนค่าแรงเพิ่มขึ้นจากการขาดแคลนแรงงาน
นอกจากนี้ ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 เพื่อพิจารณาและอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 27,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 270,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 297,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 54,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ภายใต้การเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ทั้งนี้ มีมติให้กำหนดวันจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ในวันพุธที่ 21 ธันวาคม 2565 เวลา 14.00 น. ในรูปแบบผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record Date) ในวันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2565
โดยวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุน เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและความรวดเร็วในการระดมทุนในกรณีที่บริษัทฯ มีความจำเป็นจะต้องใช้เงินเพิ่มทุน และทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมสำหรับการลงทุนหรือขยายธุรกิจในอนาคตได้อย่างทันกาล อีกทั้งยังช่วยเสริมสภาพคล่องและส่งผลให้โครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯแข็งแกร่งและมั่นคงมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัทฯ ตลอดจนสร้างผลตอบให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp