Pi แนะติดตามการประกาศ GDP ไทย 3Q22 ในวันนี้

160

มิติหุ้น – บทวิเคราะห์จาก บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) หรือ “Pi” “พาย” คาดการณ์ ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 0.6% หลักๆเป็นเพียงแรงซื้อปกติเท่านั้น มิได้มีข่าวใดๆที่มีนัยยะสำคัญ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับลดลง 2.4% ถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่เกิดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

สัปดาห์นี้ปัจจัยต่างๆค่อนข้างทรงตัว โดยประเทศไทยจะมีการประกาศ GDP 3Q22 ในวันจันทร์ Bloomberg คาดขยายตัว 4.5%YoY 0.8%QoQ และในวันพุธกระทรวงพาณิชย์จะมีกำหนดการรายงานมูลค่าส่งออกประจำเดือน ต.ค. Bloomberg คาดขยายตัว 5.25%YoY พร้อมขาดดุลการค้า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้หากทั้ง 2 ตัวเลขเศรษฐกิจประกาศออกมาดีกว่าคาดการณ์มองว่าเป็นบวกกับตลาด และหากดุลการค้าติดลบน้อยกว่าคาดการณ์จะหนุนเงินบาทแข็งค่าเป็นปัจจัยบวกต่อ Fund Flow ต่างชาติ ส่วนต่างประเทศโดยเฉพาะสหรัฐจะเน้นที่ (1) วันพุธจะมีการรายงานคำสั่งซื้อสินค้าคงทน Bloomberg คาดขยายตัว 0.4%MoM และวันเดียวกันจะมีการรายงานผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน Bloomberg คาดที่ 2.25 แสนราย และสุดท้ายยอดขายบ้านมือ 1 Bloomberg คาดที่ 5.7 แสนหลังคาเรือน ตัวที่เลขเศรษฐกิจที่แย่กว่าตลาดคาดน่าจะเป็นบวกมากกว่า ส่วนฝั่ง EU จะมีการรายงาน PMI ในวันพุธ เบื้องต้นจากที่มีคาดการณ์พบว่าส่วนใหญ่เป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 สะท้อนถึงภาคผลิตที่หดตัว อาจเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อหุ้นที่มีรายได้ใน EU อาทิ KCE ดังนั้นหากพิจารณาหลายๆปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นจะพบว่าปัจจัยค่อนข้างนิ่งๆ จึงประเมิน SET INDEX มิได้เคลื่อนไหวในกรอบกว้างประเมินกรอบไว้ที่เพียง 1600 – 1640 ทั้งนี้มองว่าปัจจัยใหญ่ๆที่จะมีผลต่อการลงทุนได้แก่ประชุม FED ช่วงวันที่ 14 ธ.ค. รวมถึงเงินเฟ้อสหรัฐฯประจำเดือน พ.ย. ช่วงวันที่ 13 ธ.ค. ส่วนในประเทศรอผลประชุม กนง. วันที่ 30 พ.ย. เชิงกลยุทธ์การลงทุนอาจเพิ่มการถือครองเงินสดบ้างหลังตลาดหุ้นรับรู้ปัจจัยบวกไปพอสมควร (เงินเฟ้อ ดอกเบี้ย)แต่ระยะถัดไปยังมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจถดถอย ส่วนหุ้นแนะนำเน้นที่ Domestic อาทิ ค้าปลีก (BJC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB TTB TISCO) สื่อสาร (ADVANC INTUCH) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ขนส่ง (BEM) สินค้า IT (COM7) สื่อนอกบ้าน (PLANB) พร้อมแนะทยอยสะสมโรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC) รับกระแสดอกเบี้ยเข้าใกล้จุดสูงสุด

COM7 (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 45.00 บาท) เชื่อว่าอุปสงค์จะยังมีอยู่และได้รับการเติมเต็มในไตรมาส 1/23 แทน เพราะที่ผ่านมามือถือรุ่น iPhone ได้รับการตอบรับที่ดีมาตลอด เมื่ออิงข้อมูลจาก Canalys การส่งมอบสมาร์ทโฟนของ Apple ทั่วโลกนั้นโต 8% YoY ในไตรมาส 3/22 ส่วนคู่แข่งอย่าง Samsung มีการส่งมอบลดลง 8% YoY แม้เปิดตัวรุ่นเรือธงใหม่อย่าง Samsung Galaxy Z Flip 4 ในช่วงเดือน ส.ค. 2022 ไปก็ตาม

WHA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 4.54 บาท) คาดว่ากำไรปี 2023 จะโตขึ้น 11%YoY หนุนจาก 1) backlog ที่แข็งแกร่งราว 1,300 ไร่ในไตรมาส 3/22 และการโอนที่ดินให้ BYD ในปี 2023 2) ยอดขายที่ดินอันแข็งแกร่ง กระแสการลงทุนจากอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภคและอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการเปิดโครงการ Nghe An เฟส 2 ช่วงสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp