มิติหุ้น – นายพีรกานต์ มานะกิจ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไอออน เอนเนอร์ยี่ จำกัด (ION Energy) ผู้นำด้านจัดหาโซลูชั่นพลังงานโซลาร์ครบวงจร เผยว่า ไอออน เอนเนอร์ยี่ กลุ่มธุรกิจน้องใหม่ในกลุ่มบริษัท บางกอกเคเบิ้ล ให้บริการโซลูชั่นพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร ทั้ง การ “ลงทุน” ติดตั้งโซลาร์ฟรีผ่านสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ( PPA) ให้กับกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางและการ “รับเหมา” จัดหาและติดตั้งแผงโซลาร์ (EPC) สำหรับที่อยู่อาศัยและการพาณิชย์ ภายใต้พันธกิจ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการสร้างโอกาสให้กับกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง โครงการที่อยู่อาศัยและองค์กรธุรกิจที่ต้องการติดตั้งระบบโซลาร์ขนาดต่ำกว่า 1 เมกะวัตต์ สร้างผลงานที่ดีในปี 65
ล่าสุด บริษัทได้ติดตั้ง ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ในโครงการที่อยู่อาศัยแล้วรวมกว่า 700 หลังทั่วประเทศ มากที่สุดในไทย เป็นลูกค้ากลุ่ม PPA และ EPC ทั้งภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และบ้านเดี่ยว โดยตัวอย่างลูกค้าที่ได้เลือกใช้บริการไอออน คือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน), โรงแรม เดอะสแตนดาร์ด หัวหิน, บริษัท โรงงานแม่รวย (ผู้ผลิตและจำหน่ายถั่วลิสง “โก๋แก่”) รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอีกหลายแห่ง โดยจุดเด่นที่ลูกค้าเลือกใช้บริการไอออน เนื่องจากให้บริการด้วยจุดเด่น 3 ด้าน ประกอบด้วย การทำงานที่รวดเร็วกว่า พร้อมเสนอราคาภายใน 14 วัน และติดตั้งอย่างรวดเร็วด้วยทีมงานวิศวกรรมที่มีประสบการณ์สูง และบริการเซอร์วิสภายใน 24 ชม. ผ่านทีมบริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังให้บริการด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า เนื่องจากเป็นบริษัทในกลุ่มของบางกอก เคเบิล ซึ่งเป็นผู้ผลิตสายไฟฟ้ารายใหญ่และผู้บุกตลาดโซลาร์ เจ้าแรกในประเทศไทย พร้อมประสบการณ์ในอุตสาหกรรมโซลาร์ในมากกว่า 15 ปี ติดตั้งไปแล้วกว่า 110 เมกะวัตต์ทั่วโลก
นอกจากไอออน เอนเนอร์ยี่ นี้ยังโดดเด่นในเทคโนโลยีที่ทันสมัย ด้วยการเป็น Solar Tech Startup ที่ พัฒนาแอปพลิเคชั่น Solar Monitoring & Payment Platform เพี่อรองรับไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานในปัจจุบัน ที่สามารถตรวจสอบการทำงานของระบบโซลาร์ ทั้งการผลิตและการจ่ายไฟฟ้า รวมถึงกำลังการใช้ไฟฟ้า และยังสามารถชำระค่าไฟฟ้าที่ผลิตจากระบบโซลาร์สำหรับลูกค้ากลุ่ม PPA ครบวงจรผ่านแอปพลิเคชั่นเดียว ภายใต้ชื่อ “ION ENERGY” ซึ่งในปีนี้ได้มีการจับมือกับซัมซุงและแสนสิริ เปิดตัวบ้านต้นแบบ Smart Home Smart Energy ครั้งแรกในประเทศไทย ที่โครงการบุราสิริ กรุงเทพกรีฑา โดยการนำพลังงานสะอาดจากโซลาร์เซลล์และแอปพลิเคชั่นของ ION ENERGY มาเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่น “SmartThings” อุปกรณ์สมาร์ทโฮมและเทคโนโลยี AI และ IoT เพื่อเชื่อมต่อเป็นบ้านยุคใหม่ให้ชีวิตสมาร์ทกว่าที่เคย รวมถึงการให้ผู้อยู่อาศัยได้ควบคุมและติดตามการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและการใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์ เพื่อให้ความสำคัญกับการรณรงค์ในเรื่อง Net Zero Emissions และถือเป็นก้าวสำคัญในการมอบประสบการณ์ผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยไปอีกขั้น
“เทรนด์การใช้พลังงานสะอาดจาก Solar Panel on the Roof ในกลุ่มที่อยู่อาศัย (Residential) มีเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้คนทั่วโลกและในประเทศไทย หันมาตระหนักถึงการร่วมกันช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีปัจจุบันทำให้ราคาของการติดตั้ง แผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา ถูกลง สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำคัญที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายจากค่าไฟที่ราคาต่อหน่วยสูงขึ้นถึง 4.72 บาท และมีแนวโน้มสูงขึ้นถึง 6 บาทภายใน 3 ปีข้างหน้า (ข้อมูลจาก : ธนาคารทหารไทย) ซึ่งจะยิ่งทำให้การติด แผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาถึงจุดคุ้มทุน (Break-even) เร็วขึ้นได้ภายในระยะเวลาเพียงในเวลาเพียง 3 – 5 ปี สำหรับกลุ่มธุรกิจและอุตสาหกรรม และ 5 – 7 ปี สำหรับกลุ่มที่อยู่อาศัย สอดคล้องกับแผนธุรกิจของ ไอออน ซึ่งตั้งเป้าหมายการเติบโตในปี 2566 ประมาณ 15% และเป้าหมายระยะยาว 5 ปี นับจากปี 2565-2570 เติบโตด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา กำลังการผลิตไฟฟ้า 150 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นมูลค่าโครงการ 3,750 ล้านบาท นอกจากนี้ไอออนจะใช้กลยุทธ์ในการร่วมมือกับพันธมิตรภาคอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย ในการเข้าไปติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาในโครงการที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ ซึ่งจากปัจจัยเทรนด์ การเติบโตของอุตสาหกรรมและการมีพันธมิตรภาคอสังหาริมทรัพย์จะช่วยให้ไอออนไปถึงเป้าหมายได้ไม่ยาก” นายพีรกานต์ กล่าว
ล่าสุดครั้งแรกในไทย! ไอออน เอนเนอร์ยี่ ได้ร่วมกับ แสนสิริ ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ในกลุ่มอสังหารายใหญ่ที่สุดของ ION ในการเดินหน้านำนวัตกรรมใหม่ กับ 2-in-1 Solar Roof Tile กระเบื้องลอนโซล่าร์ ตั้งเป้าติดตั้งใน คลับเฮาส์โครงการลักซ์ชัวรี่บ้านแสนสิริ บางนา ในปี 2024 นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกับแสนสิริ และพันธมิตรด้านพลังงาน ทำ R&D พัฒนาแบตเตอรี่เก็บไฟจากพลังงานสะอาดในบ้าน ภายในปี 2030 ในราคาที่เข้าถึงได้ จากปัจจุบันที่ยังมีราคาสูงมาก ตลอดจนลูกบ้านแสนสิริ สามารถบริหารจัดการปริมาณการใช้ไฟฟ้าจาก Solar Roof แบบ Real-time ผ่านแอพ Sansiri Home Service ที่สามารถตรวจเช็คจำนวนการผลิตไฟฟ้า คำนวณและประเมินการใช้ไฟฟ้า คำนวณการช่วยประหยัดพลังงาน คำนวณเทียบเท่าการปลูกต้นไม้ และลดปริมาณคาร์บอน ดูการทำงานของระบบ และระบบแจ้งตือนการซ่อมที่เตรียมพัฒนาระบบในอนาคต
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0D
