มิติหุ้น – คุณสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคเปลี่ยนไป วิถีออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญ เนื่องจากมีความสะดวก รวดเร็ว และมีสินค้าที่หลากหลาย นอกจากนี้ ยังมีคนอีกจำนวนมากผันตัวเองเป็นพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ แต่กลับพบปัญหาในเรื่องของสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ยั่งยืน ทำให้เรามองเห็นโอกาสการเติบโตในธุรกิจนี้ และพร้อมที่จะเข้ามาปิด pain point ผู้ค้าออนไลน์และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการรายย่อยใช้ช่องทางออนไลน์ในการสร้างรายได้ สร้างอาชีพที่มั่นคง ด้วยการเปิดตัวธุรกิจใหม่ ภายใต้แบรนด์ De Beste (เดอร์ เบสส์เต) จัดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์-โซเชียลคอมเมิร์ซ เน้นกลยุทธ์จับฐานลูกค้าระดับกลางขึ้นไป (Mass) ผ่านตัวแทนจำหน่ายในรูปแบบพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เท่านั้น โดยมีกลยุทธ์สำคัญ ดังนี้
- Mega Trends + Real insights: สินค้าความงามและสุขภาพเป็นเทรนด์โลกที่เติบโตต่อเนื่อง และการทำงานใกล้ชิดกับผู้คนของ อาร์เอส คอนเน็ค จึงทำให้เข้าใจและเห็นช่องว่างบางอย่างของความต้องการของผู้บริโภคที่นำไปสู่การศึกษาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ทั้งในด้านพฤติกรรม และpain point ที่เกิดขึ้นจริง จากนั้นจึงนำข้อมูลมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
- Sustainability:สร้างความยั่งยืนให้พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ เดอร์ เบสส์เต ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาสินค้า รวมถึงมีการวางแผนการออกสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่องในทุกไตรมาส ซึ่งสินค้าทุกตัวอยู่ในรูปแบบบริษัท จึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพและความยั่งยืนในการจำหน่ายสินค้า
- โมเดลธุรกิจ Entertainmerce:เป็นแต้มต่อในการดึงศักยภาพความเชี่ยวชาญจากธุรกิจสื่อและธุรกิจบันเทิงที่มีของ อาร์เอส กรุ๊ป ออกมาใช้สนับสนุนการทำธุรกิจคอมเมิร์ซด้วยการสร้างคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ ดึงดูดลูกค้า และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการ Synergy กันระหว่างกลุ่มธุรกิจในเครือ ที่สามารถควบคุมและบริหารงานได้ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีทั้งศิลปิน สื่อ และคอนเทนต์ที่จะนำมาสนับสนุนให้ตัวแทนขายออนไลน์ของ De Beste ทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น
- Diversity & Inclusive:ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายและครอบคลุม เพื่อผิวคนเอเชียโดยเฉพาะซึ่งมีลักษณะผิวที่แตกต่างด้วยเรื่องของเม็ดสีเมลานินที่กระจายตัวเยอะ สีผิวเหลือง ผิวคล้ำ ผิวสองสี และโดยทั่วไปจะประสบกับปัญหารอยดำ กระ ฝ้า แผลเป็นจากสิว เพราะผลิตเม็ดสีได้เยอะ นอกจากนี้ ผิวของชาวเอเชียมักบอบบางและแพ้สารเคมีซึ่งเกิดจากสารเคมีอันตรายบางชนิดที่ใช้แล้วสะสมเป็นเวลานาน ดังนั้น สินค้าทุกตัวจึงพัฒนาขึ้นด้วยความพิถีพิถันจากปัญหาผิวของคนเอเชียอย่างแท้จริง โดยผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในแวดวงสินค้าความงามและสุขภาพมานานกว่า 30 ปี
- Entrepreneurship:อาร์เอส กรุ๊ป มีความเข้าใจและเชื่อว่าคนยุคนี้จำนวนมากอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ ดังนั้น De Beste จึงมาพร้อมผลิตภัณฑ์นวัตกรรม และระบบแพลตฟอร์มออนไลน์สำเร็จรูป ใช้งานง่าย ที่ให้ความสะดวกต่อตัวแทนจำหน่าย รวมทั้งมีระบบดรอปชิป จัดส่งฟรี พร้อมการเทรนนิ่งต่อเนื่องจากบริษัท มีการทำวิจัย มีผู้ทดลองใช้จริงที่เห็นผลลัพธ์จากการใช้สินค้าชัดเจน พร้อมการรีวิวเต็มรูปแบบจากหลากหลาย Influencer เพื่อเป็นตอกย้ำคุณภาพให้กับสินค้า”
ขณะนี้ ผลิตภัณฑ์ตัวแรกของ De Beste มีวางจำหน่ายแล้ว ซึ่งจะช่วยทำให้ผิว “ดีที่สุดในแบบคุณ” (At Your Best) ได้แก่ De Beste Super C Serum เซรั่มซ่อมผิวติดสาร ทำงานลึกถึงระดับ DNA ดูแล 7 ปัญหาผิวใน 7 วัน ด้วย 3 เทคโนโลยี Triple-Locked C & AHA ช่วยผิวกระจ่างใส ซ่อมผิวติดสาร มี BBL Technology ช่วยผิวแข็งแรง และ Mela-Bright Technology ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และในช่วงต้นปี 2566 De Beste จะออกผลิตภัณฑ์ซูปเปอร์ ซี โซป สบู่หน้าใสเนื้อมูส จัดการปัญหาผิวแก้ยาก และ De Beste ยังวางแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในทุกๆ ไตรมาสอีกด้วย โดยสินค้าทุกตัวเป็นการจำหน่ายผ่านตัวแทนขายออนไลน์ เน้นการสนับสนุนให้ตัวแทนทำธุรกิจได้ง่ายขึ้นด้วยเครื่องมือของ De Beste เช่น การทำภาพเทมเพลตสินค้าและคอนเทนต์ให้สำเร็จรูป รวมถึงการจัดเทรนนิ่งให้ตัวแทนมีความรู้ในสินค้า การตลาด และการขาย เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
“สำหรับผู้ที่สนใจทำธุรกิจการขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ สามารถติดต่อเข้ามาเป็นนักขายหรือเป็นตัวแทนของ De Beste ได้เลย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือศักยภาพของ อาร์เอส กรุ๊ป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ecosystem ระบบ fulfillment ระบบ logistic รวมถึงสื่อทีวี วิทยุ ธุรกิจเพลง ศิลปิน คอนเสิร์ต ทั้งหมดจะเป็นตัวช่วยและส่งเสริมผลักดันให้การทำธุรกิจกับ De Beste มีความยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลให้ตัวแทนขาย หรือพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ สามารถสร้างธุรกิจให้เติบโตยั่งยืนและมั่นคงไปพร้อมกับเรา โดยภายในปี 2566 ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 250 ล้านบาท และมีตัวแทนขายออนไลน์ไม่ต่ำกว่า 3,000 ราย” คุณสุรชัยกล่าวปิดท้าย
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp