มิติหุ้น – บล.เอเซีย พลัส ออกบทวิเคราะห์กลยุทธ์ลงทุน ระบุว่า แรงกดดันตลาดการเงินโลกดูผ่อนคลายลงมาระดับหนึ่ง เริ่มจาก 1) เงินเฟ้อหลายประเทศเริ่มแผ่วลง เงินเฟ้อสหรัฐฯชะลอลงติดต่อกัน 4 เดือน และไทยชะลอลงมา 2 เดือนติด และฝ่ายวิจัยคาดมีแนวโน้มลดลงจนอยู่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยที่ตลาดคาดในกลางปีหน้า เช่นเดียวกับเงินเฟ้อไทยที่ ธปท. คาดจะเข้าสู่กรอบเป้าหมาย 1-3% ในปีหน้า 2) ดอกเบี้ยเริ่มเข้าใกล้จุดที่เหมาะสม แม้ตลาดคาด Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 0.75% มาอยู่ที่ 4% ในเดือน พ.ย. แต่ในปีหน้ากรอบบนการขึ้นดอกเบี้ยถูกจำกัดอยู่ที่ระดับ 5.25% เห็นได้ว่าระดับการขยับขึ้นค่อนข้างจำกัด ช่วยลดความผันผวนทิศทางของอัตราแลกเปลี่ยน อย่างไรก็ตามยังมีความเสี่ยงที่จะเกิด Recession ชัดเจนมากขึ้น ทั้งจากการเกิด Inverted Yield Curve ของ Bond 10 ปี และ 2 ปี ของ สหรัฐที่ยาวนาน รวมถึงข้อมูลจาก Bloomberg ชี้ว่าปี 2566 ยุโรปมีโอกาสเกิด Recession เพิ่มขึ้นเป็น 80% สหรัฐเพิ่มขึ้นเป็น 63% แต่ไทยยังห่างไกล และลดลงเหลือเพียง 13% เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มฟื้นเด่นกว่าหลายประเทศ ดังนี้ 1) สำนักเศรษฐกิจต่างประเทศ IMF, World Bank คาด GDP66F เติบโต 3.7% และ 4.3% ตามลำดับ 2) คาดดุลบัญชีเดินสะพัดมีสัญญาณการ ขาดดุลลดลงทั้งจากดุลการค้าดีขึ้นจากการนำเข้าต้นทุนพลังงานที่ราคาเริ่มลดลง และดุลบริการปรับตัวดีขึ้น หลังจากหลายประเทศผ่อนคลายมาตรการเดินทางข้ามพื้นที่3) เงินทุนสำรองระหว่าง ประเทศกำลังฟื้นตัว 4) ช่วงที่เหลือของปี คาดหวังแพ็คเกจใหญ่กระตุ้นเศรษฐกิจจากทางภาครัฐ อาทิ ช้อปช่วยชาติ เป็นต้น 5) FDI ของไทยมีโอกาสเพิ่มขึ้นในอนาคต และล่าสุดมูลค่าเงินลงทุนต่างชาติ 9M65 เพิ่มขึ้น 35%YoY มาอยู่ที่ 223,746 ล้านบาท ส่วน Fund Flow ต่างชาติยังคาดหวังการไหลเข้าต่อเนื่อง จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ยังโตต่อเนื่องในปี 2566 ในมุมมองของ IMF มีเพียง 2 ประเทศในเอเซีย คือ ไทยกับจีนเท่านั้น ขณะที่เม็ดเงินจาก LTF หนุนตลาดในเดือน ธ.ค. คาดหวังได้ยาก เพราะหลังจาก เปลี่ยนเป็นกองทุน SSF เม็ดเงินที่เคยไหลเข้าตลาดหุ้นไทยราว 2-3 หมื่นล้านบาทในเดือนสุดท้ายของปีเหลือเพียง 1–2 พันล้านบาท ในมุม Valuation ตลาดหุ้นไทย ยังดูน่าสนใจ เนื่องจากมี Market Earning Yield Gap. ที่ระดับ 4.3% แม้ภาพรวม SET Index จะมี Upside ไม่มาก จากกรอบดัชนีเป้าหมายปี 2565 ที่วางไว้ 1685– 1720 จุด กลยุทธ์การลงทุน เน้นกลุ่ม Domestic Consumption แนวโน้ม เติบโตยังสดใสกว่าภาพรวมตลาด อย่าง COM7, MTC, TISCO, BEC, SCGP, GULF
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp