AWC ผนึกกำลัง ‘Ikigai’ และ ‘SOS Thailand’ รวมพลังพันธมิตรเพื่อความยั่งยืนด้านอาหารและการจัดการขยะอาหาร ในโครงการ “AWC Alliances for Better Future” เพื่อขับเคลื่อนพันธกิจ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า”

72

มิติหุ้น  –  นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “นับเป็นโอกาสที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ AWC ได้ร่วมลงนามความร่วมมือกับ “อิคิไก (Ikigai) และ เอสโอเอส ประเทศไทย (Scholars of Sustenance Foundation หรือ SOS Thailand)”  เพื่อร่วมรวมพลังพันธมิตรยกระดับการจัดการห่วงโซ่อาหารของกลุ่มธุรกิจโรงแรมของ AWC ให้มีความแข็งแกร่งและกว้างขวางคลอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่ง AWC เชื่อว่าการรวมพลังจากทุกภาคส่วนจะเป็นการสร้างคุณค่าที่แท้จริงให้แก่ สิ่งแวดล้อม ชุมชน และประเทศไปสู่ความยั่งยืนองค์รวมและเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว ทั้งนี้ AWC ขอเชิญชวนพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันมารวมพลัง “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” ภายใต้ โครงการ “AWC Alliances for Better Future” เพื่อขยายขอบเขตการดำเนินงานด้านความยั่งยืนให้ครอบคลุมทุกมิติ พร้อมร่วมยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางด้านความยั่งยืนระดับโลก

             ที่ผ่านมาทาง AWC ตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนอาหารคุณภาพของชุมชน รวมทั้งปัญหาขยะอาหาร จึงมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านการบริหารจัดการอาหารของโรงแรมต่างๆ ในเครือ AWC อย่างต่อเนื่อง อาทิ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกของโลกที่ได้รับรางวัล 100 percent All-Star จากทาง The PLEDGE on Food Waste ลดอาหารเหลือทิ้งตามมาตรฐานของสหประชาชาติ และ โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพ ได้รับรางวัล Food Waste Hero Excellence Award 2021 จาก Scholars of Sustenance Foundation (SOS Thailand) ทั้งนี้ AWC เชื่อมั่นว่าการพัฒนาการบริหารจัดการด้านความยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุมทุกมิติตลอดต้นทางจนถึงปลายทางต้องมาจากพลังพันธมิตรที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกัน เพื่อสร้างคุณค่าองค์รวมให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เริ่มตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบประกอบอาหารจากเกษตรกรท้องถิ่นให้กับโรงแรมในเครือ AWC ไปจนถึงการลดปริมาณขยะอาหารโดยการบริจาคอาหารส่วนเกินที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการจากโรงแรมให้แก่ชุมชน และกลุ่มเปราะบางในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพฯ ภูเก็ต หัวหิน และเชียงใหม่ รวมถึงการคัดแยกขยะอาหารเพื่อนำไปเป็นอาหารสัตว์ และทำเป็นปุ๋ยหมัก เพื่อแก้ไขปัญหาการสูญเสียและการทิ้งอาหารจากการดำเนินงานในโครงการต่างๆ ของ AWC ซึ่งสอดรับกับการดำเนินงานตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และการมุ่งบรรลุเป้าหมายองค์กรในการลดปริมาณขยจากการดำเนินงานสู่บ่อฝังกลบให้เป็นศูนย์ภายในปี พ.ศ. 2573

            มร. เจมส์ ดักลาส โนเบิล ผู้ก่อตั้ง อิคิไก (Ikigai) กล่าวว่า “อิคิไกมุ่งขับเคลื่อนความยั่งยืนด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อรักษาให้คงไว้แก่คนรุ่นหลัง ผ่านโมเดลธุรกิจสร้างสรรค์ที่สอดคล้องกับการสร้างความแข็งแกร่งในการจัดการห่วงโซ่อาหารอย่างยั่งยืน โดยอิคิไกได้สานความร่วมมือกับโรงแรมในเครือ AWC และริเริ่มโครงการต่างๆ มากมาย อาทิ โปรแกรมครัว 360 องศา (360° Cuisine) การท่องเที่ยวเชิงเกษตรและร้านอาหารในคอนเซ็ปต์ Farm-to-Table ซึ่งด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาของผมในฐานะอดีตเชฟมิชลิน 2 ดาวที่ผันตัวมาเป็นเกษตรกรด้านความยั่งยืน เราได้ผสานความมุ่งมั่นนี้ไว้ในอิคิไกเพื่อรังสรรค์แนวคิดการปรุงอาหารและคอนเซ็ปต์การทำฟาร์มรูปแบบใหม่ พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยพัฒนางานบริการด้านอาหารและเครื่องดื่มใหม่ๆ ซึ่งเราจะจัดหาวัตถุดิบออร์แกนิกจากเกษตรกรในท้องถิ่น รวมถึงใช้ผลิตภัณฑ์ในท้องถิ่นปรุงอาหารเพื่อการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ให้น้อยที่สุด โดยในเดือนธันวาคมนี้ ทางอิคิไกจะเปิดร้านอาหารในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารที่สด สะอาด และปลอดสารพิษ พร้อมสนับสนุนการมีส่วนร่วมส่งมอบสิ่งดีๆ คืนสู่สังคมและธรรมชาติ สำหรับความร่วมมือกับ AWC ในครั้งนี้ ทางอิคิไก ได้ร่วมพัฒนาโปรแกรมความยั่งยืนด้านอาหารให้กับโรงแรมในเครือ AWC และตั้งเป้าที่จะขยายความร่วมมือให้ครอบคลุมโรงแรมในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นในประเทศไทย

มรเจมส์ เลย์สัน กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิเอสโอเอส ประเทศไทย (Scholars of Sustenance Foundation หรือ SOS Thailand) กล่าวว่า การร่วมมือระหว่าง SOS Thailand และ AWC เริ่มจากการที่ทั้งสององค์กรมีวิสัยทัศน์ร่วมกันที่ต้องการสร้างคุณค่าให้แก่ชุมชนและสังคม โดยได้ร่วมกันจัดการอาหารส่วนเกินที่มาจากการดำเนินงานของโรงแรมในเครือ AWC เพื่อส่งมอบให้แก่ชุมชนที่ขาดแคลนอาหารคุณภาพ ที่ทาง SOS ได้ดำเนินการอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยความร่วมมือนี้ยังมุ่งลดปริมาณขยะอาหารสู่หลุมฝังกลบผ่านการส่งต่ออาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการแก่ชุมชน และ SOS Thailand ยังช่วยส่งเสริมทักษะความรู้ของพนักงานในโรงแรมในเครือ AWC ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับมาตรการการจัดการขยะอาหารและการสูญเสียอาหารของสหประชาชาติ ซึ่งที่ผ่านมา SOS Thailand ได้ร่วมมือกับโรงแรมในเครือ AWC หลายแห่ง อาทิ โรงแรม แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก เป็นต้น เพื่อส่งต่ออาหารส่วนเกินสู่สังคมและชุมชนได้กว่า 178 ชุมชน จำนวน 158,580 มื้อ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ SOS Thailand ตั้งเป้าส่งมอบอาหารส่วนเกินสู่ชุมชนให้ได้ 40 ล้านมื้อ ภายในปี 2568 โดยได้รับการสนับสนุนจาก AWC ที่ได้ขยายขอบเขตความร่วมมือในการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการอาหารให้ครอบคลุมทุกโรงแรมในเครือ AWC ที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และขยายไปยังกลุ่มธุรกิจรีเทลอีกด้วย

           โครงการ “AWC Alliances for Better Future เป็นหนึ่งในโครงการริเริ่มตามกลยุทธ์ความยั่งยืนของ AWC ภายใต้ 3 เสาหลักได้แก่ BETTER PLANET เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น BETTER PEOPLE เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และ BETTER PROSPERITY เพื่อเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ส่งมอบประโยชน์และส่งคุณค่าองค์รวมสู่ชุมชนและสังคมอย่างยั่งยืน โดย AWC ตั้งใจเชิญชวนพันธมิตรทั้งระดับชุมชนท้องถิ่น และองค์กรต่างๆ ที่มีวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นร่วมกันมาสร้างคุณค่าที่แท้จริงและสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับประเทศไทย” นางวัลลภา กล่าวทิ้งท้าย

            AWC ดำเนินงานภายใต้กรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อเนื่อง และได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของมาตรฐานด้านความยั่งยืน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนของ S&P (จากรายงาน The Sustainability Yearbook 2022) ของกลุ่มอุตสาหกรรมโรงแรม รีสอร์ท และเรือสำราญ รวมถึงการได้รับการคัดเลือกให้ติดอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน Thailand Sustainability Investment (THSI) ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การได้รับการประเมินจาก MSCI ESG Rating ในระดับ “AA” ด้านความยั่งยืน

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp