มิติหุ้น – นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.0% เป็น 1.25% ต่อปี ทีเอ็มบีธนชาตต้องการสนับสนุนกลุ่มลูกค้าเงินฝากที่มองหาผลตอบแทนมาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่พุ่งสูง และเพื่อเก็บออมสำหรับอนาคต ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา ธนาคารจึงได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย บัญชีเงินฝากดิจิทัล ทีทีบี มีเซฟ 0.60% โดยลูกค้าจะได้รับดอกเบี้ยรวมโบนัสสูงถึง 1.70% ต่อปี สำหรับยอดเงินฝากตั้งแต่บาทแรก ถึง 100,000 บาท และ 1.40% สำหรับยอดเงินฝากมากกว่า 100,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท ซึ่งดอกเบี้ยโบนัสจะได้รับเมื่อยอดฝากเข้าบัญชีมากกว่ายอดถอนออกในแต่ละเดือน ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวส่งผลให้บัญชี ทีทีบี มีเซฟ มีผลตอบแทนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสูงกว่าบัญชีเงินฝากดิจิทัลอื่น ๆ ในตลาดปัจจุบัน ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเงินฝากที่เริ่มเก็บออมเงิน
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ครั้งนี้ เป็นการปรับอย่างต่อเนื่องครั้งที่ 3 ในปี 2565 ทำให้ภาพรวมดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น 0.75% เพื่อสอดรับกับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นและเป็นไปตามกลไกทางเศรษฐกิจ รวมถึงต้นทุนทางการเงิน ธนาคารจึงจำเป็นต้องปรับอัตราดอกเบี้ย MRR (Minimum Retail Rate) สำหรับกลุ่มลูกค้ารายย่อยชั้นดี เพิ่มขึ้น 0.20% ในขณะที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย MLR (Minimum Loan Rate) สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี 0.25% และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย MOR (Minimum Overdraft Rate) สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทวงเงินเบิกเกินบัญชี 0.25% โดยการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว จะมีผลตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป
“ทีเอ็มบีธนชาตมีความเข้าใจและห่วงใยถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อลูกค้ากับทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น จึงได้ใช้แนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อช่วยให้ลูกค้ายังคงมีสภาพคล่องในการใช้ชีวิต และจะยังคงติดตามสัญญาณเศรษฐกิจ และข้อมูลอย่างรอบด้านในการประเมินการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่การปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากจะเป็นการส่งเสริมให้คนไทยมีทางเลือกในการออมมากยิ่งขึ้น ตอกย้ำจุดยืนการเป็นธนาคารที่ต้องการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทั้งในวันนี้ และอนาคต” นายปิติ กล่าวสรุป
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp