มิติหุ้น – บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ระดับโลก (Dow Jones Sustainability World Index: DJSI World) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ด้วยเปอร์เซ็นไทล์ที่ 96 และเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ กลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Dow Jones Sustainability Emerging Markets Index: DJSI Emerging Markets) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ด้วยเปอร์เซ็นไทล์ที่ 99 สอดคล้องกับเป้าหมายของไอวีแอลที่ต้องการ “ร่วมกันยกระดับเคมีภัณฑ์เพื่อโลกที่ดีกว่า”
นายยาช โลเฮีย ประธานคณะกรรมการด้านการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล
อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า “เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ระดับโลก และกลุ่มประเทศเกิดใหม่ต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลาหลายปี ซึ่งถือเป็นข้อพิสูจน์สำคัญต่อเส้นทางการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของเราที่จะสร้างผลกระทบเชิงบวกในวงกว้าง โดยจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า ความยั่งยืนจะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากความร่วมมือ เราจึงขอขอบคุณพนักงาน ลูกค้า และพันธมิตรของเราที่ให้การสนับสนุนเส้นทางสู่ความยั่งยืนของเราอย่างต่อเนื่อง”
ในปี 2565 S&P Global เชิญบริษัทกว่า 11,000 แห่งเข้าร่วมการประเมินด้านความยั่งยืนทางธุรกิจ (Corporate Sustainability Assessment: CSA) โดยบริษัทที่มีผลงานโดดเด่นเท่านั้นที่จะได้รับพิจารณาสำหรับการเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ ในปีนี้ มีบริษัทเคมีภัณฑ์รวม 86 แห่งที่มีความผู้นำด้านความยั่งยืนและเข้าเกณฑ์การพิจารณาสำหรับ DJSI World ซึ่งติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทที่ดีสุดร้อยละ 10 อันดับแรกจากบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 2,500 แห่งทั่วโลก และมีบริษัทเคมีภัณฑ์รวม 34 แห่งที่เข้าเกณฑ์การพิจารณาสำหรับ DJSI Emerging Markets ซึ่งติดตามผลการดำเนินงานของบริษัทที่ดีสุดร้อยละ 10 อันดับแรกจากบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 800 แห่งในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ในบรรดาบริษัทที่เข้าเกณฑ์การพิจารณาทั้งหมด มีบริษัทเคมีภัณฑ์เพียง 10 แห่งที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI World และมีบริษัทเคมีภัณฑ์เพียง 3 แห่งที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI Emerging Markets
การที่ไอวีแอลได้รับการจัดอันดับที่ดีอย่างต่อเนื่องติดต่อกันในดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์นั้น มาจากความมุ่งมั่นของบริษัทที่มุ่งเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ ภายใต้วิสัยทัศน์ปี 2573 ไอวีแอลได้ให้คำมั่นในการกำหนดเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกภายใต้โครงการริ่เริ่มกำหนดเป้าหมายโดยอิงหลักวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets initiative: SBTi) โดยตั้งเป้าลดอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 30 และการเพิ่มการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเป็นร้อยละ 25 นอกจากนี้ ไอวีแอลยังร่วมเป็นที่ปรึกษาใน SBTi Expert Advisory Group สำหรับอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ รวมถึงให้ทุนสนับสนุนในการพัฒนาแนวทางการลดคาร์บอนของอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์อีกด้วย
ในฐานะผู้ผลิตเม็ดพลาสติก PET รีไซเคิลที่นิยมใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดในโลก ไอวีแอลเดินหน้ากำลังการรีไซเคิลขวด PET ใช้งานแล้วอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน
โดยไอวีแอลได้พัฒนาธุรกิจรีไซเคิลจนสามารถบรรลุครึ่งหนึ่งของเป้าหมายที่ต้องการเพิ่มปริมาณขวด PET ใช้งานแล้ว-ที่นำไปรีไซเคิลให้ได้ 750,000 ตัน หรือเทียบเท่า 50,000 ล้านขวดต่อปี ภายในปี 2568 และยังได้กำหนดเป้าหมายที่ท้าทายกว่าเดิมในการเพิ่มปริมาณการรีไซเคิลให้ได้ 1.5 ล้านตัน หรือเทียบเท่า 100,000 ล้านขวดต่อปี ภายในปี 2573
ไอวีแอลยังคงลงทุนเพิ่มตามวิสัยทัศน์ 2573 ซึ่งรวมถึงการรีไซเคิลขั้นสูงและวัตถุดิบชีวภาพ ในปีนี้ ไอวีแอลร่วมกับ Coca-Cola Beverages Philippines เปิดโรงงานรีไซเคิลแห่งใหม่ชื่อ PETValue ในประเทศฟิลิปปินส์ เพื่อรีไซเคิลขวดเครื่องดื่มใช้งานแล้วเพื่อผลิตขวดใหม่ที่ปลอดภัยสำหรับบรรจุอาหารและเครื่องดื่ม
เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางการเงินของบริษัทที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน ไอวีแอลสามารถจัดหาเงินทุนที่ยั่งยืนรวมมูลค่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2564 ซึ่งเชื่อมโยงกับการพัฒนาผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนของบริษัท ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG) ซึ่งรวมถึงสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) สินเชื่อสีน้ำเงิน (Blue Loan) และหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทยังได้ลงนามวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนที่เชื่อมโยงกับ ESG กับธนาคาร 6 แห่ง มูลค่า 275 ล้านยูโร ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการจัดหาเงินทุนที่ขับเคลื่อนด้วยความยั่งยืนที่มีมาอย่างยาวนาน
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp