มิติหุ้น – KJL บริหารต้นทุนดีมีศักยภาพ “บล.หยวนต้า” เผย 4Q65 เติบโตดีทั้ง YoY และ QoQ คาดปี 66 รายได้ทะลุ 1.1 พันล้าน โกยกำไรเพิ่มขึ้น 24% เล็งอัพไซส์ราคาเหมาะสมใหม่ 21 บาท อ้างอิง PE 16.5 เท่า พร้อมมุ่งสู่ Growth Stock โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 15.8%
นางสาววิชชุดา ปลั่งมณี ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL เปิดเผยผลประกอบการงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน ปี 2565 ว่า เติบโตได้อย่างต่อเนื่องเป็นไปตามเป้า โดยมีกำไรสุทธิที่ 32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 29% โดยมีรายได้จากการขาย จำนวน 255 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% ส่วนผลประกอบการในงวด 9 เดือนแรกของปีนี้ สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 บริษัทฯ มีกำไร จำนวน 98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% มีรายได้จากการขาย 756 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% และอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยที่ปรับดีขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 28% สาเหตุจากบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 4 ปี 2565 ยังสะท้อนการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นคาดว่า จะมีกำไรปกติประมาณ 34 ล้านบาท เติบโตเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) ทั้งนี้ ปัจจัยการเติบโตมาจากยอดขายสินค้าที่เพิ่มขึ้นจากความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐานที่ตลาดต้องการและสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการขายประมาณ 260 ล้านบาท เติบโตทั้ง YoY และ QoQ และคงอัตรากำไรขั้นต้นทรงตัว 28-29%
ทั้งนี้ บริษัทฯ ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565/2566 หลังจากสร้างยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีกว่าที่ประเมินไว้จากกำไรในงวด 9 เดือน ของบริษัทฯ คิดเป็น 90% ของประมาณการกำไรปี 2565 ซึ่งได้ปรับประมาณการกำไรปกติของปี 2565 และ 2566 ของ KJL เพิ่มขึ้นเป็น 26% และ 24% เป็น 132 ล้านบาท (+41%) และ 150 ล้านบาท (+13% ) ตามลำดับ จากสมมติฐานรายได้ที่เพิ่มขึ้น เป็น 1 พันล้านบาท และ 1.1 พันล้านบาท และปรับประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 28% และ 28.2% จากการบริหารจัดการต้นทุนมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง โดยในปี 2566 จะปรับใช้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 21 บาท (อ้างอิง PE 16.5 เท่า ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ของผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกัน) จากราคาเดิม 17.30 บาท โดยยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
อย่างไรก็ตาม KJL วางแผนเป็นหุ้นเติบโต (Growth Stock) เพราะ KJL มีพัฒนาการที่ดีในธุรกิจตู้ไฟสวิทซ์บอร์ด ตู้กันน้ำแบบมีหลังคาเพื่อใช้ภายนอกอาคาร รวมถึงงานออกแบบผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของลูกค้า (MTO) และเป็นผู้เชี่ยวชาญในการประกอบอุปกรณ์โลหะ และอุปกรณ์ไฟฟ้า จากสินค้าที่มีความหลากหลาย สามารถรองรับได้ในทุกอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันการบริหารจัดการต้นทุนมีศักยภาพ ซึ่งคาดว่ากำไรปกติจะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) (ปี 2565 – 2567) ที่ 15.8% ขณะที่ สถานะการเงินเป็นเงินสดสุทธิ (Net cash company) พร้อมขยายการลงทุนและพัฒนาสินค้าใหม่ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในอนาคต
@mitihoonwealth