มิติหุ้น – SCAP เร่งเครื่องโค้งสุดท้าย ส่งซิกปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 65 ทะลุเป้าเดิม 11,000 ล้านบาทอย่างล้นหลาม ด้านผู้บริหาร ธิติธรรม โรจนพฤกษ์ เปรยนิวบุ๊คกิ้งปิดปีจบอย่างสง่างาม หนุนการเติบโตรอบใหม่ของเอสแคป มั่นใจผลงานรวมทั้งปีทำสถิติใหม่นิวไฮ ย้ำภาพผู้นำธุรกิจสินเชื่อรายย่อยและ Tech Leasing Company
ธิติธรรม โรจนพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP เปิดเผยว่า บริษัทได้บรรลุเป้าหมายในการดำเนินงานปี 2565 อย่างดีเยี่ยม โดยเป้าหมายหลักในการควบรวมกิจการได้ดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ผลักดันให้ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยมีแนวโน้มการเติบโตเด่นในอนาคตเข้าสู่ตลาดทุนอย่างเป็นทางการ และสร้างการจดจำแก่นักลงทุนภายใต้ชื่อใหม่บนกระดานเทรดว่า ‘SCAP’ เปิดศักราชใหม่ของหุ้นที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ช่วยผลักดันให้เครือศรีสวัสดิ์แข็งแกร่งยิ่งขึ้นหลังการปรับโครงสร้างของธุรกิจ
ขณะที่เป้าหมายในการปล่อยสินเชื่อใหม่ของปี 2565 ได้ตั้งเป้าในการปล่อยสินเชื่อใหม่ทั้ง 2 ธุรกิจหลัก คือ สินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่อยู่ที่ระดับ 11,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 160% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยสินเชื่อส่วนบุคคลบริษัทได้เดินหน้าตามแผน ทั้งการขยายทีมงานฝ่ายขายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ปรับผลิตภัณฑ์ให้สามารถสร้างยอดขายได้สูงขึ้น ด้านธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ ได้เพิ่มจำนวนพนักงานขายและดีลเลอร์ในท้องถิ่นให้ครอบคลุมมากขึ้นในระดับอำเภอทั่วประเทศ รุกทำการตลาดกับดีลเลอร์และปรับโปรโมชันเข้ากับความต้องการของท้องถิ่น ส่งผลให้ การปล่อยสินเชื่อใหม่เติบโตเกินเป้าหมายที่วางไว้อย่างล้นหลาม ทะลุเป้าหมายที่วางไว้อย่างยอดเยี่ยม สะท้อนแนวโน้มธุรกิจที่ขยายตัวตามดีมานด์ของตลาดเป็นอย่างดี
“ปีนี้โดยภาพรวม ผลงานเติบโตเกินเป้าที่วางไว้ ส่วนหนึ่งมาจากความร่วมมือร่วมใจของพนักงานทุกท่าน และการบริหารงานที่ดีของบอร์ดบริหาร ผมเชื่อว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะสะท้อนออกเป็นรายได้และกำไรที่ดี และมีโอกาสในการทำสถิติใหม่หากเทียบกับธุรกิจที่เราทำอยู่ในปัจจุบัน ส่งผลดีต่อผู้ถือหุ้นและสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนที่มองหาหุ้นที่ดีและมีการเติบโตที่โดดเด่นในอนาคต” ธิติธรรม กล่าว
นอกจากนี้ตามแผน บริษัทได้ผนวกเทคโนโลยีเข้ากับการทำธุรกิจเพื่อตอกย้ำการเป็น Tech Leasing Company ปัจจุบันได้ดำเนินการแล้ว อาทิ การประเมิน credit scoring ของกลุ่มลูกค้าที่มีข้อมูลทางการเงิน และไม่มีข้อมูลทางการเงินในฝ่ายวิเคราะห์สินเชื่อ, ระบบเทคโนโลยีที่สามารถช่วยให้งานการอนุมัติสินเชื่อเกิดขึ้นได้ภายใน 15 นาทีสำหรับงานฝ่ายขาย, การตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร ผ่านระบบ e-Consent และการติดตามทวงถามหนี้ บริษัทได้มีการพัฒนาระบบการทวงถามหนี้โดยใช้ระบบ GPS เพื่อช่วยให้การติดตามทวงถามหนี้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นต้น ซึ่งในปี 2566 บริษัทมีแผนในการพัฒนาเทคโนโลยีในอีกหลากหลายด้าน เพื่อให้การบริการตอบโจทย์ลูกค้าและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันบนอุตสาหกรรมเดียวกันได้
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp