มิติหุ้น – บมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB) โดย บล.ดีบีเอส วิคเวอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า ผู้บริหารยังมั่นใจว่าสินเชื่อปี 65 จะเติบโต 3-4% เพราะสินเชื่อรายย่อยและรายใหญ่จะโตดีในไตรมาส 4/65 สำหรับสินเชื่อสิ้นไตรมาส 3/65 ขยาย +1.9%YoY แต่หดตัว -0.8%YTD เพราะการชำระคืนหนี้ภาครัฐ และสินเชื่อรายใหญ่ & SME ลดลงอย่างไรก็ดี สินเชื่อรายย่อยโตดี+4.3%YTD
ส่วน NIM เพิ่มแกร่งในไตรมาส 3/65 จากสินเชื่อรายย่อยเติบโตดี ขณะที่สินเชื่อภาครัฐที่ Yield ต่ำลดลง, มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงส.ค.และก.ย.65 และบริหารต้นทุนการเงินได้ดีขึ้น คำด NIM จะเพิ่มขึ้นต่อในไตรมาส 4/65 และปี66
ด้านคุณภาพสินทรัพย์อยู่ในเกณฑ์บริหารจัดการได้โดย NPL ratio สิ้นก.ย.65 ทรงตัวที่ 3.3% มี Coverage ratio เพิ่มเป็น 176% (จาก 174% ในสิ้นมิ.ย.65) ผู้บริหารคาด NPL ratio สิ้นปีนี้จะต่ำกว่า 3.5%
นอกจากนี้ด้านรายได้ Fee มีแนวโน้มโตดีต่อในไตรมาส 4/65 หลังเพิ่มขึ้น 21%YoY ในไตรมาส 3/65 ตามลำดับ ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยขึ้นกับภาวะตลาดทุน ซึ่งในไตรมาส 3/65 มีบันทึกกำไรตีมูลค่ำตามตลาดเข้ามา และ KTB ยังมีฐานลูกค้าดิจิตอลที่แข็งแกร่ง ผ่านช่องทางกรุงไทย Next & แอปเป๋าตังส์ปัจจุบันมีลูกค้าแอปเป๋าตังส์กว่า 40 ล้านคน
จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” KTB ให้ราคาพื้น ฐาน 19.50 บาท อิง P/BV ปี 66 ที่ 0.7 เท่า (ค่าเฉลี่ย 5 ปี) ทั้งนี้ประมาณการและราคาพื้นฐานมี Upside ถ้าตั้งสำรอง ECL ในปี 66 น้อยกว่าที่คาดไว้ จุดเด่น คือ มีฐานลูกค้ารายย่อยแข็งแกร่ง ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อีกในระยะยาว ด้านปันผล KTB จ่ายปีละ 1 ครั้ง คาด DY ไว้ประมาณ 4% ต่อปี