SABINA ประกาศเป้าหมายสู่ความยั่งยืน 2030 ตามกรอบสหประชาชาติ เดินหน้าขับเคลื่อน 13 โครงการ + 1 มูลนิธิ

80

มิติหุ้น –  SABINA ประกาศเป้าหมายสู่ความยั่งยืนตามกรอบสหประชาชาติปี 2030  พร้อมขับเคลื่อนผ่าน 13 โครงการกับ 1 มูลนิธิ ครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล  ตอกย้ำความยั่งยืนไม่ได้จำกัดเฉพาะองค์กรใหญ่ เพราะองค์กรขนาดกลางก็สามารถสร้างความยั่งยืนได้ ผ่านการปลูกฝังและสร้างความรู้สึกร่วมให้พนักงานเห็นความสำคัญ 

นางสาวดวงดาว มหะนาวานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชุดชั้นในภายใต้แบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า เป้าหมายสำคัญของ SABINA นอกเหนือจากการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและเป็นที่ต้องการของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างโอกาสในการเติบโตของธุรกิจแล้ว บริษัทฯ ยังมีเป้าหมายที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นความยั่งยืนที่สามารถส่งต่อไปยังทุกภาคส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน คู่ค้า ลูกค้า สังคม รวมถึงชุมชน โดยขณะนี้บริษัทฯ พร้อมแล้ว ที่จะก้าวสู่เป้าหมายในการสร้างความยั่งยืนตามกรอบองค์การสหประชาชาติ ในปี 2030 (United Nations Sustainable Development Goals : UN SDGs 2030)

“ที่ผ่านมา เราดำเนินโครงการต่างๆ มากมายภายใต้กรอบ ESG ซึ่งครอบคลุม สิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และบรรษัทภิบาล (Governance) ผ่าน 13 โครงการกับ 1 มูลนิธิ ที่ในวันนี้ SABINA ในฐานะบริษัทขนาดกลาง (Mid-Cap) พร้อมแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่า การสร้างความยั่งยืนไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น เพราะองค์กรขนาดกลางก็มีศักยภาพมากเพียงพอที่จะก้าวไปสู่การสร้างความยั่งยืนตามกรอบองค์การสหประชาชาติในปี 2030 ได้เช่นกัน” นางสาวดวงดาวกล่าว

ทั้งนี้ จุดเริ่มต้นในการสร้างความยั่งยืนของ SABINA เริ่มจากการปลูกฝังจิตสำนึกของพนักงาน ผ่านโครงการ 5 ส. ซึ่งความพิเศษของโครงการไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ภายในโรงงาน แต่ยังส่งต่อความตระหนักถึงความรับผิดชอบไปถึงการใช้ชีวิตที่บ้านของพนักงานทุกคน ด้วยการสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานซึมซับว่า กระบวนการ 5 ส.เป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวัน ก่อนที่ SABINA จะเดินหน้าขับเคลื่อนกิจกรรมและโครงการเพื่อสร้างความยั่งยืนทั้งหมด 13 โครงการ กับอีก 1 มูลนิธิ ครอบคลุมด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้าและใช้น้ำ การบริหารจัดการของเสีย การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น โครงการโละแล้วไปไหน ด้านสังคม อาทิ การสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาผ่านมูลนิธิคุณแม่จินตนา ธนาลงกรณ์ การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบรีไซเคิลในกลุ่มสินค้ายั่งยืน รวมถึงโครงการเย็บเต้าเติมใจสู้ภัยมะเร็ง ที่ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 16  และด้านบรรษัทภิบาล อาทิ การจัดทำจรรยาบรรณของธุรกิจ และการเข้าร่วมโครงการแนวร่วมต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่นของภาคเอกชนไทย (CAC)

ในด้านสิ่งแวดล้อม SABINA สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึง 30% โดยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากกิจกรรมต่างๆ ขององค์กร (CFO) ได้มากกว่า 900 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ และลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์ (CFP) ได้มากกว่า 20 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งส่วนนี้มาจากโครงการ “โละแล้วไปไหน” ที่ SABINA ผนึกความร่วมมือกับพันธมิตร ได้แก่ บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท อินทรี อีโคไซเคิล จำกัด ซึ่งเป็นการจัดการกับชุดชั้นในเก่าเสื่อมคุณภาพด้วยวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณขยะ นำของเสียมาใช้เป็นพลังงานอย่างยั่งยืน โดย SABINA ได้รับชุดชั้นในเก่าที่ไม่ใช้แล้ว (ณ เดือนพฤศจิกายน) จำนวน 13.5 ตัน ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของการกำจัดชุดชั้นในเก่า และในทุกการโละ 1 ครั้ง SABINA จะบริจาคชุดชั้นในใหม่ 1 ตัว ให้แก่สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านราชาวดี (หญิง) จังหวัดนนทบุรี โดยสามารถส่งต่อชุดชั้นในใหม่ เป็นจำนวนทั้งสิ้น 4,068 ชิ้น

“เรายังส่งต่อความยั่งยืนให้ผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่เป็นมิตรและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเราตระหนักว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นเป็นอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมของโลก ดังนั้น SABINA จึงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสินค้ายั่งยืน (Sustainability Product) ด้วยการออกสินค้าคอลเลคชั่นต่างๆ ที่ใส่ใจตั้งแต่วัตถุดิบที่ผลิตจากเส้นใยรีไซเคิล (Recycled Yarn) ลดการใช้วัตถุดิบที่สร้างขึ้นใหม่ ขณะที่กระบวนการผลิตเลือกใช้วิธีย้อมแบบประหยัดน้ำ (Light on Water) ลดการขาดแคลนน้ำและลดปริมาณน้ำเสียที่เกิดขึ้นในขั้นตอนย้อม และเลือกใช้สีพิมพ์รักษ์โลก (Eco Printing) ในขั้นตอนการพิมพ์ ลดโอกาสเกิดน้ำเสียจากสารเคมี โดยตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่มที่เน้นความยั่งยืนให้มีสัดส่วนไม่น้อยกว่า 5% ของสินค้าทั้งหมด ซึ่งจะทำให้สำเร็จภายในปี 2566” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าว

ล่าสุด SABINA ยังปรับเปลี่ยนยูนิฟอร์มเป็น “เสื้อรักษ์โลก” สำหรับพนักงานขายหน้าร้าน ที่ออกแบบเป็นเสื้อเชิ้ต ผลิตจากขวดพลาสติก PET ที่นำมาบดและทำความสะอาดเพื่อเปลี่ยนเป็นเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล (Recycled Polyester) ถักทอจนออกมาเป็นเสื้อพนักงานที่พร้อมสวมใส่ โดยเสื้อ 1 ตัวทำมาจากขวดพลาสติก 15 ขวด และในปีนี้ ซาบีน่าได้ผลิตมอบให้กับพนักงานจำนวน 4,500 ตัว ซึ่งเท่ากับได้นำขวดมารีไซเคิลถึง 67,500 ขวด ขณะที่เสื้อโปโลรักษ์โลกสำหรับพนักงานออฟฟิศ ผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล ที่เหลือจากการตัดเย็บจากกระบวนการผลิต นำมารีไซเคิลถักทอขึ้นมาเป็นเส้นด้ายใหม่ และใช้เส้นใยคอตตอนธรรมชาติมาผสม เพื่อให้สวมใส่สบาย และย่อยสลายได้ง่ายในธรรมชาติอีกด้วย

ทั้งหมดเป็นโครงการที่ SABINA ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ภายใต้หลักคิดที่ว่า “การสร้างความยั่งยืนไม่ใช่ความรับผิดชอบหรือไม่ใช่งานของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือคนใดคนหนึ่ง” เพราะสำหรับ SABINA แล้ว ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของพนักงานทุกคน ที่ส่งผ่านกระบวนการทำงานที่มีผู้รับผิดชอบในโครงการ และมีทีมสนับสนุน ซึ่งมาจากหลายส่วนงาน เพื่อให้การสร้างความยั่งยืนเป็นเรื่องของทุกคนและทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างและส่งต่อความยั่งยืนอย่างแท้จริง

 

 

@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp