มิติหุ้น – บมจ. สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (“SGP”) ผู้นำในการจำหน่ายก๊าซแอลพีจีในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ อายุ 4 ปี โดยคาดว่าจะเสนอขายในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 นี้ เพื่อนำเงินไปชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนด และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกลุ่มกิจการ มั่นใจได้รับการตอบรับดีจากนักลงทุนที่เชื่อมั่นในโอกาสการเติบโตของธุรกิจที่มีความมั่นคง สะท้อนจากอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้อยู่ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” โดยทริสเรทติ้ง
นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 1/2566 ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป (Public Offering) อายุหุ้นกู้ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนทางบริษัทฯจะประกาศให้ทราบต่อไป และคาดว่าจะเสนอขายในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2566 เพื่อเตรียมชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนดังกล่าว ตลอดจนใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่าย 5 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน), ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด
SGP ผู้นำในธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจี ของในประเทศไทย ครอบคลุมทั้งภาคครัวเรือน ภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง มีระบบการขนส่งทั้งทางรถและทางเรือ เพื่อใช้ในการจัดส่งอย่างรวดเร็ว และมีเครือข่ายกระจายสินค้าที่ครอบคลุมทั้งประเทศ ในส่วนของธุรกิจก๊าซแอลพีจีในต่างประเทศ บริษัทฯ มีคลังก๊าซแอลพีจีในประเทศจีน สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และลาว ที่ใช้ในการจำหน่ายก๊าซแอลพีจีทั่วภูมิภาคเอเชีย นอกจากนี้ในส่วนของธุรกิจอื่นๆที่นอกเหนือจากก๊าซแอลพีจี ประกอบไปด้วยธุรกิจโรงไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าจำนวน 2 แห่ง ในประเทศเมียนมา มีกำลังการผลิต 230 เมกะวัตต์ และ 10 เมกะวัตต์ ตามลำดับ และอีกธุรกิจคือธุรกิจให้บริการคลังน้ำมันและท่าเทียบเรือน้ำลึก อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง
สำหรับหุ้นกู้ที่จะจัดจำหน่ายในครั้งนี้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม Stable จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยอันดับความน่าเชื่อถือจะสะท้อนถึงสถานะของบริษัทฯ ในการเป็นผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลวรายใหญ่ในประเทศไทย รวมถึงการมีเครือข่ายกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง และ มีฐานลูกค้าที่กระจายตัวอย่างกว้างขวาง รวมถึงแนวโน้มการเติบโตในตลาดต่างประเทศ
ในส่วนของผลดำเนินงานในงวด 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 บริษัทฯมีรายได้จากการขาย ขนส่ง และให้บริการเป็นจำนวนเงิน 75,902.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2564 ซึ่งเป็นผลจากการที่ราคาก๊าซ LPG เฉลี่ย ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมทั้งปริมาณขายที่สูงขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลจากที่ประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศทำให้ปริมาณการใช้ LPG เพิ่มสูงขึ้น ทั้งภาคขนส่งและภาคครัวเรือน ทั้งนี้ในส่วนของผลกำไรสุทธิของบริษัท ในงวด 9 เดือน ปี 2565 อยู่ที่ 1,111.43 ล้านบาท
@mitihoonwealth
https://lin.ee/cXAf0Dp