PSH ปรับทัพโครงสร้างธุรกิจ โยกพรีคาสท์จัดตั้งบริษัทใหม่

582

 

มิติหุ้น-PSH หรือ บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง แจ้งว่า บอร์ดมีมติปรับโครงสร้างกิจการและจัดตั้งบริษัทย่อย โดยการแยกหน่วยธุรกิจพรีคาสท์ออกมาเป็นบริษัทใหม่ เพื่อให้บรรลุตามแผนกลยุทธ์ของบริษัทในการสร้างธุรกิจยังยืน และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและความคล่องตัวในการบริหารงานของกลุ่มให้เจริญเติบโต ต่อเนื่องรวมถึงช่วยเพิ่มโอกาสในการหาพันธมิตรทางธุรกิจในอนาคต

บริษัทได้ดำเนินการจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่จำนวน 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท ควอตซ์ โฮลดิ้ง 1 จำกัด ดำเนิน และ บริษัท ควอตซ์ โฮลดิ้ง 2 จำกัด ดำเนินธุรกิจ Holding Company มีวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจการเข้าถือหุ้นหรือลงทุนในบริษัทอื่น เพื่อให้บริษัทย่อยทั้งสองเข้าถือหุ้นในบริษัท อินโน พรีคาสท์ จำกัด

  1. การจัดตั้ง Inno Precast มีวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพรีคาสท์ เพื่อรับโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องและที่ใช้ในการประกอบธุรกิจพรีคาสท์ สิทธิ และหน้าที่ต่าง ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้อง หนี้สิน รวมถึงบุคคลากรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพรีคาสท์ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ตามที่กล่าวข้างต้น
  2. การดำเนินโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องและใช้ในการประกอบธุรกิจพรีคาสท์

ทั้งนี้ รายละเอียดของบริษัทย่อยแห่งใหม่จำนวน 3 บริษัท โดยมีมูลค่าการโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องที่ใช้ในการประกอบพรีคาสท์ มูลค่าประมาณ 2,300 ล้านบาท ได้เริ่มดำเนินการในเดือนพ.ย.65 และจะเสร็จสิ้นกระบวนการปรับโครงสร้างกิจการภายในรอบระยะเวลาบัญชีปี 65 ซึ่งเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.65 ได้ดำเนินการโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องและที่ใช้ในการประกอบธุรกิจพรีคาสท์ สิทธิและหน้าที่ต่าง ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้อง หนี้สินรวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพรีคาสท์จาก Pruksa Real Estate ให้แก่ Inno Precast เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ ควอตซ์ โฮลดิ้ง 1 และ ควอตซ์ โฮลดิ้ง 2 จะเข้าถือหุ้น Inno Precas ในระยะถัดไป

การปรับโครงสร้างกิจการในครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินและผลการดำเนินงานของบริษัทฯ รวมถึงผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ

การปรับโครงสร้างกิจการให้อยู่ในลักษณะนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินกิจการและการบริหารงานองค์กรของกลุ่มบริษัทฯ ให้มีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมของธุรกิจ อีกทั้งยังเป็นการแบ่งแยกความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจออกจากกัน ส่งผลให้การบริหารงานองค์กรเกิดความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การใช้รายงานทางการเงินของกิจการที่แยกออกจากกันอย่างชัดเจนเพื่อวิเคราะห์และติดตามฐานะทางการเงิน รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพของกิจการที่แยกออกจากกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

@mitihoonwealth

https://lin.ee/cXAf0Dp