มิติหุ้น – ตลาดหลักทรัพย์ mai ตลอดระยะเวลา 24 ปีที่ผ่านมา เป็นแหล่งระดมทุนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งได้สร้างโอกาสให้แก่ธุรกิจให้เติบโตในระยะยาว ล่าสุดมีบริษัทที่เข้ามาระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ mai แล้ว 8 กลุ่มอุตสาหกรรม รวม 197 บริษัท (รวม KTMS) มี Market Cap สูงถึง 520,356.50 ลบ. (26/12/65) เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับปี 64 ที่ 471,981.87 ลบ.
โดยในแต่ละปี มีบริษัทที่สามารถสร้างธุรกิจให้เจริญเติบโต จนสามารถย้ายมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้เป็นจำนวนมากราว 48 บริษัท (สิ้น 23 ธ.ค.65) ซึ่งในปี 64 มีสูงถึง 10 บริษัท และปี 65 ที่ 3 บริษัท ทั้งนี้จากการเข้าสำรวจพบว่าในปี 65 มีบริษัทที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ประมาณ 18 บริษัท เทียบเท่ากับปี 64
บริษัทเห่เข้าตลาดเพียบ
“บิ๊ก ประพันธ์ เจริญประวัติ” ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ mai ออกมาให้ความเห็นว่า ในปี 66 จะมีบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาด mai มากกว่าปกติ เพราะจะมีการปรับเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ที่มีผลบังคับใช้ในปี 67 ว่า จะต้องมีงบการเงินย้อนหลัง 3 ปี และมีกำไรสุทธิปีสุดท้ายไม่ต่ำกว่า 10 ลบ. จึงต้องใช้ระยะเวลาการเข้าเตรียมตัวในการเข้าจดทะเบียนมากกว่าเดิม ล่าสุดมีบริษัทยื่นไฟลิ่ง ให้แก่สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว 12 บริษัท ที่จะทยอยเข้าจดทะเบียนในปี 66
เปิดโผ4หุ้นเด็ด
“คุณวิลาสินี บุญมาสูงทรง” ผอ.ฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ปี 65 ปรับตัวลง 14.47 จุด หรือคิดเป็น -2.49% โดย mai Index เคลื่อนไหวในแนวโน้มแกว่งตัวออกข้าง แตะระดับสูงสุดที่ 689.50 จุด และระดับต่ำสุดที่ 560.96 จุด มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ 5,606.41 ลบ. หรือเพิ่มขึ้น 3.8% จากปีก่อน ส่วนนักลงทุนต่างชาติพลิกมีสถานะขายสุทธิ 415.88 ลบ. จากปีก่อนหน้าที่มีสถานะซื้อสุทธิ 2,851.72 ลบ. จำนวน สำหรับตลาดหลักทรัพย์ mai ปี 66 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง โดยแนะนำ “เพิ่มน้ำหนัก” เข้าลงทุน 4 หุ้นเด่น อย่าง ‘SPA-D-CEYE -AU’
นำโดย
SPA : ทยอยขาดทุนลดลง…ลุ้นพลิกมีกำไร
การที่จีนเปิดประเทศสนับสนุนจำนวนผู้ใช้บริการที่เป็นลูกค้าชาวจีนที่นิยมใช้บริการสปามีจำนวนเพิ่มขึ้น ขณะที่การผ่อนคลายมาตรการจัดการโควิด-19 จากระดับ A ลงสู่ระดับ B สนับสนุนสาขาที่เปิดดำเนินการในประเทศจีน ดังนั้นผลงาน Q4/65 ผลประกอบการมีโอกาสพลิกกลับมามีกำไร เนื่องจากเป็น High season ของการท่องเที่ยวโดยคาดว่านักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากประเทศไทยยกเลิก Thailand pass ทำให้ไม่มีการตรวจเชื้อ COVID และกักตัวเพิ่มขึ้น แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” เป้าหมาย 10.80 บ.
D : ฐานลูกค้าต่างชาติขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ
ทิศทางธุรกิจปี 66 รายได้จะเติบโตต่อเนื่อง เพราะฐานลูกค้าชาวต่างชาติจะขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญจากการขยายตลาดเชิงรุกสู่กลุ่มอาหรับซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และลูกค้ากลุ่มประเทศเดิมจากโซนออสเตรเลีย อเมริกา และยุโรปที่ฟื้นตัว และการผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็น “Dental Hub” โดย Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 65 เฉลี่ย 52 ลบ. เติบโต 315%YoY และปี 66 เฉลี่ย 61 ลบ. เติบโต 17%YoY ซึ่ง Bloomberg Consensus เป้าหมาย 8.75 บ.
CEYE : ธุรกิจโฆษณามีแววสดใส
ปี 66 จะได้รับปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจโฆษณาและแผนขยายงานออนไลน์โปรดักชั่นในต่างประเทศมากขึ้นจากเดิมที่ให้บริการเพียงภาพนิ่งเป็นหลัก ซึ่งได้รับอานิสงส์ตามการฟื้นตัวของธุรกิจหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายทำให้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ ในหลากหลายธุรกิจ อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม รถยนต์ การเงิน สินค้าอุปโภคบริโภค แฟชั่น ฯลฯ กลับมาใช้จ่ายด้านโฆษณามากขึ้น งานบริการสื่อภาพนิ่ง และสื่อเคลื่อนไหวสำหรับโฆษณา
รวมไปถึงธุรกิจให้บริการสตูดิโอโรงภาพยนตร์ โฆษณามากขึ้น ส่วนผลงาน Q4/65 กำไรราว 24 ลบ. +193%QoQ +58%YoY ขณะที่ทั้งปี 65 คาดกำไรราว 54 ลบ. เติบโต 90%YoY และปี 66 กำไรสุทธิ 64 ลบ. เติบโต 19%YoY แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมาย 7.12 บ.
AU : ลุ้นสัดส่วนลูกค้าต่างชาติกลับสู่ระดับช่วงก่อนเกิดโควิด-19
ปี 66 คาดได้แรงหนุนจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง และมาตรการผ่อนคลายการควบคุมโรคระบาดช่วยสนับสนุนกลุ่มลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุดเดือน ก.ย. 65 สัดส่วนลูกค้าต่างชาติมีการเติบโตชัดเจนขึ้นมาที่ระดับ 20.7% จากที่ระดับ 1% เมื่อช่วงต้นปี และยังคงมีโมเมนตัมดีต่อเนื่องไปยังปี 66 ซึ่งคาดสัดส่วนลูกค้าต่างชาติจะกลับสู่ระดับก่อนช่วงโควิด-19 ที่ราว 30-40%
นอกจาก AU มีแผนการขยายสาขาเชิงรุก ตลอดจนการขยายแฟรนไชส์ไปยังกลุ่ม CLMV รวมทั้งหมดอีกราว 30 สาขา จากปัจจุบัน 44 สาขา ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไร Q4/65 ราว 41 ลบ. เติบโต 210%YoY และเติบโต 21%QoQ ส่วนปี 66 คาดกำไรราว 204 ลบ. เติบโต 65%YoY ซึ่ง Bloomberg Consensus 13.20 บ.
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
