TKS ผนึก SYNEX ประกาศแผนธุรกิจปี 66  ขึ้นแท่น Tech Ecosystem Builder เดินหน้าลงทุนธุรกิจในกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง

263

มิติหุ้น – เปิดอาณาจักร “บมจ. ที.เค.เอส. เทคโนโลยี หรือ TKS” และ “บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย) หรือ SYNEX” กางแผนปี 2566 ประกาศวิสัยทัศน์ ขึ้นแท่น Tech Ecosystem Builder เผยดีลใหญ่ TKS ที่น่าจับตามองตั้งแต่ต้นปี เตรียมเข้าลงทุนใน AIT ต่อยอดบริการวางระบบ (SI) ด้าน SYNEX พร้อมต่อยอดการเติบโตไปด้วยกัน ด้วยโซลูชั่นที่ครบวงจร หนุน Ecosystem ในกลุ่มของ TKS และ SYNEX แกร่งกว่าเดิม

นายจุติพันธุ์ มงคลสุธี  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS เปิดเผยถึงทิศทางการเติบโตทางธุรกิจในปี 2566 ภายใต้วิสัยทัศน์ “Tech Ecosystem Builder” ว่า TKSจะเดินหน้ากลยุทธ์ในการขยายการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยี (Tech) อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีการเจรจาหลายราย ซึ่งจะเข้ามาต่อยอดอีโคซิสเต็มของบริษัทฯ ในด้านเทคโนโลยีได้ โดยล่าสุด บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AIT จำนวน 280,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 21.03% เมื่อรวมกับที่ถืออยู่เดิมจะถือหุ้นใน AIT ที่ 22.48%

บริษัทฯ เชื่อว่าการเข้าลงทุนใน AIT จะช่วยสนับสนุนการเติบโตนอกเหนือจากสามารถรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก AIT แล้ว ยังสามารถขยายขอบเขตการลงทุนและกระจายการลงทุนไปยังธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างธุรกิจผู้รับเหมาระบบสารสนเทศและการสื่อสารแบบครบวงจร (System Integrator หรือ SI) ให้บริการในกลุ่มลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน โดยมีลักษณะการขายเป็นแบบเบ็ดเสร็จ หรือ เทิร์นคีย์ (Turn Key) ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การวางแผนงาน การออกแบบระบบงาน การดำเนินการติดตั้ง การฝึกอบรม และการซ่อมบำรุงรักษา ซึ่งจะเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิมที่ทางกลุ่มบริษัทได้ดำเนินการอยู่แล้ว และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของกลุ่มบริษัท ในการเป็นส่วนหนึ่งของ Tech Ecosystem Builder ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการของบริษัทในปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนได้

ที่ผ่านมา TKS ได้มุ่งเน้นการปรับแผนธุรกิจของบริษัทฯ มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีดิจิทัล โดยการพัฒนานวัตกรรมด้านระบบสารสนเทศ และได้ปรับโครงสร้างองค์กรในกลุ่มบริษัทให้เกิดผลผนึกทั้งด้านการพัฒนาตลาดและผลิตภัณฑ์ และด้านการลดต้นทุนการผลิตเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

“ปี 2566 เชื่อว่ายังเห็นการเติบโตที่ดีของ TKS แม้จะมียอดขายบางส่วนลดลง แต่บางกลุ่มก็เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังเชื่อว่ารายได้จะเติบโตได้ราว 10% ซึ่งยังเดินหน้าในการขยายการลงทุนใหม่ๆ ตามกลยุทธ์การเป็น Tech Ecosystem Builder ที่ผ่านมาก็ได้มีการสร้าง Ecosystem ไว้จำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านของ TKS ที่หลายคนมีความกังวลก่อนหน้านี้ว่าจะไม่เห็นการเติบโต จากธุรกิจเดิม แต่จริงๆ แล้วธุรกิจเดิมได้มีการวางรากฐานไว้อย่างแข็งแกร่ง การมีธุรกิจใหม่ยิ่งเข้ามาช่วยเสริม ดังนั้นน่าจะเห็นการลงทุนใหม่ๆ ต่อเนื่อง” นายจุติพันธุ์ กล่าว

ส่วนธุรกิจเดิมด้านการพิมพ์ มีการวางรากฐานอย่างแข็งแกร่ง ผลประกอบการยังรักษาระดับได้ และในปีนี้จะมีการเลือกตั้ง บริษัทฯก็มีโอกาสที่จะได้รับงานพิมพ์บัตรเลือกตั้งด้วย นับว่าเป็นอัพไซด์ให้แก่ธุรกิจด้วย รวมไปถึงบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX บริษัทในเครือก็สร้างการเติบโตได้ดี จากความต้องการไอทียังมีต่อเนื่อง

ด้าน นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ดิสทริบิวเตอร์ผู้นำด้านไอทีอีโคซิสเต็ม กล่าวว่า ที่ผ่านมาซินเน็คฯ เป็นผู้นำตลาดในการเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอที ครอบคลุมสินค้ากว่า 70 แบรนด์ชั้นนำ มีช่องทางการจัดจำหน่ายกว่า 6,000 ราย และมีศูนย์บริการและพันธมิตรกว่า 75 แห่ง โดยมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซินเน็คฯ เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ และจุดเปลี่ยนต่างๆ ทั้งในทางเศรษฐกิจ และพฤติกรรมของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็น Lifestyle การเข้าถึง Digital Platform & Connected devices การทำงานแบบ Hybrid Security&Privacy การเข้าถึงความบันเทิงต่าง ๆ รวมถึงการกลับมาของธุรกิจท่องเที่ยว วิสัยทัศน์ของบริษัท จึงมุ่งเน้นเพื่อตอบสนองและคว้าโอกาสเหล่านั้นไว้ โดยมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็น No.1 IT Ecosystem โดยปี 2566 จะเป็นอีกก้าวสำคัญที่ซินเน็คฯ จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การนำเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า Commercial จากการขายแบบเดิมไปสู่การนำเสนอแบบ Solution-Based โดยเป็นการนำเสนอ Solution เพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้าได้ครอบคลุมมากขึ้น และเพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซินเน็คฯ จึงเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรที่มีศักยภาพเพื่อเข้ามาเติมเต็มระบบนิเวศให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

สำหรับความร่วมมือของกลุ่มบริษัท ระหว่าง TKS และ AIT เป็นอีกดีลที่จะเข้ามาสนับสนุนให้ซินเน็คฯ ขยายบริการไปยังกลุ่มธุรกิจผู้รับเหมาระบบสารสนเทศและการสื่อสาร (SI) ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เป็นโอกาสบุกตลาดใหม่ๆ ที่มีการเติบโต ตอบโจทย์ลูกค้าในยุค Digital Transformation จากก่อนหน้านี้ ซินเน็คฯ ได้ขยายเข้าไปในกลุ่มสินค้าระบบเครือข่ายและความปลอดภัย (Network & Security) ที่ได้ร่วมมือกับ Cybertron ลุยเรื่อง Cybersecurity และล่าสุดจับมือ Alibaba could ที่จะเข้ามาช่วยยกระดับโซลูชั่นฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ให้บริการของซินเน็คฯ ได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ

นอกจากนี้ ในด้านบริการที่เป็นจุดแข็งของซินเน็คฯ ได้มีการแยกธุรกิจโซลูชั่นบริการด้านไอที ในชื่อ Service Point ., LTD. เพื่อสนับสนุนบริการหลังการขายให้พาร์ทเนอร์ ซึ่งปัจจุบันได้รับความไว้วางใจในการแต่งตั้งซินเน็คฯ ให้เป็น authorized service center ให้สินค้าไอทีและสมาร์ทโฟนกว่า 21 แบรนด์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจให้พันธมิตรใน Ecosystem ของกลุ่มบริษัท TKS และ SYNEX

สำหรับปี 2566 ซินเน็คฯ มองตลาดสินค้าคอนซูเมอร์ ยังคงเติบโต รับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งการเรียนการสอน การทำงาน หรือธุรกรรมออนไลน์ อีกทั้ง กลุ่มสินค้าเกมมิ่งมีแนวโน้มที่จะเติบโตไปอีกไกล จากพฤติกรรมของเกมเมอร์ยุคใหม่ และความนิยมจากกีฬา E-Sport ที่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ สะท้อนซินเน็คฯ อยู่ในธุรกิจสินค้าเทคโนโลยีและโซลูชั่นที่เติบโตเป็นเมกะเทรนด์ขาขึ้น

“ปีนี้เรามีดีลใหญ่กันตั้งแต่ต้นปีในกลุ่มของบริษัท การลงทุนของ TKS ในครั้งนี้ก็เป็นผลให้ ซินเน็คฯแข็งแกร่งมากขึ้นในส่วนของกลุ่มสินค้าคอมเมอร์เชียล ก็คาดหวังว่า จะสามารถทำให้เราสร้างการเติบโตได้อย่างโดดเด่น เป็นอีก New S-Curve ให้ซินเน็คฯในพอร์ตของธุรกิจ B2B นอกจากนี้ในปี 2566 เรายังมุ่งมั่นบริหารงานโดยคำนึงถึงสังคม สิ่งแวดล้อม และบรรษัทภิบาล (ESG) สร้างการเติบโตทุกมิติอย่างยั่งยืน เพื่อสะท้อนการเป็นผู้นำไอทีอีโคซิสเต็มอย่างเต็มรูปแบบ” นางสาวสุธิดา กล่าวปิดท้าย

 

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon