มิติหุ้น – ธนาคารทิสโก้จัดงานสัมมนา Fight For Opportunities “เปิดสังเวียนการลงทุนโลก 2023 ธีมไหนสร้างกำไรชนะตลาด” ชู 2 ธีมประเทศโตเด่น และกลุ่มหุ้นน่าซื้อ เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนพุ่งสวนทางเศรษฐกิจชะลอ และเพิ่มผลตอบแทนสำหรับพอร์ตการเกษียณ พร้อมเคาะ 4 กองทุนหมัดเด็ด จาก 4 บลจ. ชั้นนำได้แก่ KFCMEGA-A จาก บลจ.กรุงศรี PRINCIPAL – VNEQ-A จาก บลจ. พรินซิเพิล TBIOTECH จาก บลจ.ทิสโก้ และ LHCYBER-A จาก บลจ. แลนด์แอนด์เฮ้าส์
นายพิชา รัตนธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวเปิดการสัมมนา Fight For Opportunities “เปิดสังเวียนการลงทุนโลก 2023 ธีมไหนสร้างกำไรชนะตลาด” ว่า จากแนวโน้มที่คนไทยมีโอกาสอายุยืนขึ้นถึง 100 ปี ธนาคารทิสโก้จึงมุ่งมั่นในการยกระดับการวางแผนการเกษียณให้ลูกค้า ภายใต้คอนเซป “Megatrends Retirement Planning” ด้วยการพลิกโฉมผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ครอบคลุมการสร้างความมั่งคั่ง (Megatrends Investment) และปกป้องความเสี่ยง (Megatrends Protection) ที่เพียงพอต่อชีวิตหลังเกษียณที่ยืนยาวขึ้นและเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคน
สำหรับในมุมของ Megatrends Investment ในปีนี้ นอกจากการช่วยให้พอร์ตการลงทุนของลูกค้าก้าวข้ามวิกฤตเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดในกลุ่มประเทศหลักแล้ว การคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสสร้างผลกำไรให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดแบบ Exponential Curve หรือการเติบโตขึ้นเป็นเท่าตัวอย่างคุ้มค่ากับความเสี่ยง ซึ่งเป็นแนวทางที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนเพื่อรองรับการเกษียณ
นายณัฐกฤติ เหล่าทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการอาวุโสที่ปรึกษาการลงทุนทิสโก้เวลธ์ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงภาพรวมการลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งที่เพียงพอกับชีวิตที่ยืนยาวหลังเกษียณ ว่า การลงทุนในธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลกยังคงน่าสนใจ ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่ยังมีความท้าทายสูง เพราะไม่เพียงสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว แต่ยังสามารถฟันฝ่าความผันผวนระยะสั้นที่อาจเกิดขึ้นในแต่ละปีด้วย ซึ่งในปี 2566 ธนาคารทิสโก้ยังคงแนะนำให้ลงทุนในธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลก เพราะนอกจากจะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแล้วในปีนี้ยังเป็นโอกาสลงทุนจากราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงมาอีกด้วย
ซึ่งปี 2566 ธนาคารทิสโก้มองว่าเป็นปีที่มีโอกาสการลงทุนอยู่มาก และเป็นจังหวะที่เหมาะสำหรับลงทุน โดยเฉพาะ 2 ธีมการลงทุน ได้แก่ 1. High Potential Country ซึ่งเป็นการลงทุนในประเทศที่เศรษฐกิจ – กำไร บจ.โตสูง ราคาหุ้นไม่แพง ได้แก่ ตลาดหุ้นจีน และเวียดนาม
และ 2. High Demand Sector ธุรกิจเมกะเทรนด์ จำเป็นต่อโลก โตสวนเศรษฐกิจชะลอตัว ได้แก่ 1. กลุ่มหุ้นเฮลธ์แคร์ ที่ได้อานิสงค์จากสังคมผู้สูงอายุและนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า 2.กลุ่มเทคโนโลยีที่มีรายได้ประจำ(Recurring income) และ 3.โครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค โดยคาดว่าทั้ง 2 ธีมการลงทุนที่มีโอกาสสร้างกำไรชนะตลาด มีแนวโน้มการเติบโตสวนทางกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
สำหรับกองทุนที่น่าสนใจลงทุนตาม 2 ธีมแนะนำ ธนาคารทิสโก้ได้คัดเลือกกองทุนจาก 4 บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ชั้นนำมาให้ลูกค้าพิจารณาลงทุน ได้แก่ กองทุนจาก บลจ.กรุงศรี บลจ.พรินซิเพิล บลจ.ทิสโก้ และบลจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์
ชูกองทุน KFCMEGA-A และ PRINCIPAL – VNEQ-A น่าลงทุนในธีม High Potential Country
นายเกียรติศักดิ์ ปรีชาอนุสรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนทางเลือก บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับกองทุนเปิดกรุงศรีไชน่าเมกะเทรนด์-สะสมมูลค่า (KFCMEGA-A) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศที่มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในประเทศจีน และ/หรือมีธุรกิจหลักหรือมีรายได้ส่วนใหญ่มาจากการประกอบธุรกิจในประเทศจีน โดยเป็นหลักทรัพย์ของบริษัทที่เกี่ยวข้องหรือได้รับประโยชน์จากการเติบโตของเมกะเทรนด์ (Mega Trends) เช่น การเติบโตของ E-Commerce ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี สังคมผู้สูงอายุ หรือการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นายชาตรี มีชัยเจริญยิ่ง หัวหน้าการลงทุนฝ่ายตราสารทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับรายละเอียดกองทุนเปิด พรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ (ชนิดสะสมมูลค่า) (PRINCIPAL –VNEQ-A) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) กองทุนมีนโยบายลงทุนในตราสารแห่งทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์หรือมีธุรกิจหลักในประเทศเวียดนามที่เชื่อว่ามีศักยภาพในการเติบโตในอนาคต รวมทั้ง ตราสารทุนอื่นใดที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องและ/หรือที่ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือ ทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศดังกล่าว และ/หรือตราสารทุนของผู้ประกอบการเวียดนามที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศอื่น และ/หรือกองทุนรวมอื่นที่มีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุน และ/หรือกองทุนรวมอีทีเอฟตราสารทุนต่างประเทศ ที่เน้นลงทุนในตราสารทุนประเทศเวียดนาม
ธีม High Demand Sector ต้อง กองทุน TBIOTECH และ LHCYBER-A
นายสากล รัตนวรี ผู้จัดการกองทุนอาวุโส บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า สำหรับกองทุนแนะนำของ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด คือ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไบโอเทคโนโลยี เฮลธ์แคร์ (TBIOTECH) ความเสี่ยงระดับ 7 (เสี่ยงสูง) กองทุนรวมตราสารทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Polar Capital Funds plc – Biotechnology ชนิดหน่วยลงทุน I US Dollar (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายลงทุนอย่างน้อย 51% ของมูลค่าทรัพย์สินในตราสารทุนของบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) การวินิจฉัยโรค (Diagnostics) และเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต (Life Sciences Tools) ทั่วโลก กองทุนดังกล่าวบริหารและจัดการโดย Polar Capital LLP
นายจิตติพงศ์ มีเพียร ผู้จัดการกองทุน ฝ่ายการลงทุนต่างประเทศ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผยว่า กองทุนเปิด แอล เอช โกลบอล ไซเบอร์ ซีเคียวริตี้ (LHCYBER-A) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Global X Cybersecurity ETF ที่มีนโยบายลงทุนในบริษัทที่ดำเนินการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ กองทุนดังกล่าวบริหารและจัดการโดย Global X Management Company LLC
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน ติดต่อสอบถามรายละเอียด หรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารทิสโก้ทุกสาขา หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 2 กด 4 และแอปพลิเคชัน TISCO My Wealth
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon