ในปี 65 ทริสเรทติ้ง หรือ Tris Rating ได้จัดอันดับเครดิตให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้ จำนวน 230 ราย แบ่งเป็น บริษัททั่วไป จำนวน 180 ราย และสถาบันการเงิน จำนวน 50 ราย จากการเก็บข้อมูลในปี 65 ไม่พบว่ามีผู้ใดผิดนัดชำระหนี้ ทำให้จำนวนผู้ออกตราสารที่ผิดนัดชำระหนี้สะสมตั้งแต่ปี 37 คงอยู่ที่ 24 ราย ในบรรดาผู้ออกตราสาร หนี้จำนวน 230 รายในปี 65 นั้นเป็นผู้ออกตราสารใหม่จำนวน 22 รายและเป็นผู้ที่ขอยกเลิก อันดับเครดิตจำนวน 6 ราย
ทั้งนี้ สัดส่วนของผู้ออกตราสารที่มีการประกาศอันดับเครดิตต่อ สาธารณะในปี 65 ที่มีอันดับเครดิตคงเดิมนั้นอยู่ที่ระดับ 85.15%
ปรับเพิ่ม – ลด อันดับเครดิตให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้
ในช่วงปีที่ผ่านมา Tris Rating มีการปรับเพิ่มอันดับเครดิตให้แก่ผู้ออกตราสารจำนวน 17 รายและ ปรับลดอันดับเครดิตอีก 13 ราย ทำให้สัดส่วนของผู้ออกตราสารที่ได้รับการปรับลดอันดับเครดิต เมื่อเทียบกับผู้ออกตราสารที่ได้รับการปรับเพิ่มอันดับเครดิตอยู่ที่ 0.76 เท่า ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ลดลงจาก 1.69 เท่า ในปี 64
นอกจากนี้ทริสเรทติ้งยังมีการประกาศเครดิตพินิจ (CreditAlert) ให้แก่ผู้ออกตราสารหนี้จำนวน 6 ราย โดยเป็นเครดิตพินิจแนวโน้ม “ลบ” จำนวน 4 รายและแนวโน้ม “บวก” จำนวน 2 ราย
อัตราการผิดนัดชำระหนี้สะสม 1 ปี 2 ปี และ 3 ปีในช่วงระหว่างปี 37-65 ปรับลดลงเล็กน้อย โดยมาอยู่ที่ระดับ 0.832% , 1.785% และ 2.592% จากระดับ 0.912% , 1.963% และ 2.862% ในช่วงระหว่างปี 37-64 ตามลำดับ
ปี 65 มีตราสารหนี้ออกใหม่ 1.24 ล้านล้านบาท
ตลาดตราสารหนี้ไทยในปี 65 ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากอุปสงค์ในการออกหุ้นกู้เพื่อรักษาต้นทุนทางการเงินของบริษัทเอาไว้ภายใต้ สภาวะอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น
โดยตราสารหนี้ใหม่ที่ออกและจดทะเบียนกับสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย ในปี 65 เพิ่มขึ้น 21.8% YoY คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1.24 ล้านลบ. ในจำนวนนี้ มีตราสารหนี้ที่ไม่มีอันดับเครดิตคิดเป็นสัดส่วน 18.0% ของตราสารที่ออกทั้งหมดในปี 65 ซึ่งลดลงจาก 20.3% ในปี 64
ทั้งนี้ ผู้ออกตราสารใน อุตสาหกรรมทั้ง 5 กลุ่มซึ่งได้แก่ พลังงาน พัฒนาอสังหาริมทรัพย์บริการทางการเงิน สื่อสารโทรคมนาคม และธนาคารพาณิชย์นั้นมีการออกตราสาร หนี้รวมกันแล้วคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 67.6% ของมูลค่าหุ้นกู้ทั้งหมดที่ออกในปี 65 ส่วนมูลค่าของตราสารหนี้ระยะยาวคงค้างในภาคเอกชน ณ สิ้นปี 65 นั้นเพิ่มขึ้น 11.5% YoY โดยมีมูลค่ารวม ทั้งสิ้นที่จำนวน 4.08 ล้านลบ.
ในขณะเดียวกัน สัดส่วนของตราสารหนี้ที่ไม่มีอันดับเครดิตเมื่อเทียบกับตราสารหนี้คงค้างรวมก็ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ ที่ระดับประมาณ 15.3% จากระดับ 15.5% ในปี 64
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon