READY เคาะราคา IPO 7.30 บ./หุ้น เปิดจองซื้อ 14-16 ก.พ.นี้

151

มิติหุ้น –  บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ READY เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 35,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 35% ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดย READY จำนวน 15,000,000 หุ้น คิดเป็น 15% และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Darlex Limited (DARLEX) จำนวน 20,000,000 หุ้น คิดเป็น 20% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเสนอขายภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนในครั้งนี้ ได้แต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน

นางสาวพัชพร สรรคบุรานุรักษ์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า READY ได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่หุ้นละ 7.30 บาท จะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 14 – 16 กุมภาพันธ์นี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจ (Sector) เทคโนโลยี (Technology) ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้

สำหรับราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายหุ้นละ 7.30 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ประมาณ 31.74 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2565) ทั้งนี้ READY พิจารณานำ P/E ของคู่เทียบในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการประเมินราคาหุ้นที่เสนอขาย โดยมี P/E เฉลี่ยกลุ่ม TECH mai เฉลี่ยที่ 48.81 เท่า

อย่างไรก็ดี READY พร้อมเดินหน้าจัดงานโรดโชว์ นำเสนอข้อมูลสรุปการเสนอขายหุ้น IPO ต่อนักลงทุนรายย่อย ชูปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของธุรกิจ หลังจากระดมทุนครั้งนี้ จะสนับสนุน READY เดินหน้าพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านการขายและการตลาด ตอบโจทย์ธุรกิจไทย ด้วยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ได้รายได้ประจำใหม่ (NEW MRR) และรายได้เฉลี่ยต่อลูกค้าใหม่สูงขึ้น (NEW ARPA) ตอบโจทย์การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตของธุรกิจไทยอย่างมืออาชีพ และสอดรับไปกับอุตสาหกรรมบริการดิจิทัล และซอฟต์แวร์ที่เติบโต เป็นเทรนด์ของโลกการขายและการทำการตลาดยุคใหม่ ด้วยแพลตฟอร์มของคนไทย ที่พัฒนาเพื่อธุรกิจไทยอย่างแท้จริง

นายทรงยศ คันธมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร READY กล่าวว่า การเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจำนวนประมาณ 100 ล้านบาท (หลังหักค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง) เพื่อใช้สำหรับพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Readyplanet All-in-One Platform) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและคุณสมบัติในการทำงาน (Functions & Features) ให้สามารถรองรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าใหม่ จำนวนประมาณ 50 ล้านบาท รวมทั้ง ใช้สำหรับขยายทีมขายและทีมการตลาด ในการหาลูกค้าใหม่ (New Customer Acquisition) เพื่อขยายฐานลูกค้า และนำเสนอบริการเพิ่มจากฐานลูกค้าปัจจุบัน (Up-selling & Cross-selling) จำนวนประมาณ 20 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังเตรียมเงินไว้ใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ จำนวนประมาณ 30 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับรองรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคต และสนับสนุนการเติบโตแบบก้าวกระโดด

วางเป้าหมายระยะยาว พัฒนาแพลตฟอร์ม Readyplanet All-in-One เพื่อมุ่งสู่การเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจของลูกค้า เป็นผู้นำการตลาดดิจิทัลแบบเน้นประสิทธิภาพ รวมทั้ง ขยายตลาดระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าสำหรับงานขาย เป็นผู้นำ Loyalty Platform และ เป็นผู้นำด้านระบบการจองโรงแรมในประเทศไทย

ด้าน นายอมร พิริยะแพทย์สม Executive Vice President บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า READY มีจุดเด่น อยู่ในธุรกิจที่เป็นเทรนด์ของโลกยุคใหม่ มีความแข็งแกร่งด้วยทีมผู้บริหาร ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อีคอมเมิร์ซ และการตลาดดิจิทัล ผ่านการให้บริการมากว่า 22 ปี ได้รับการยอมรับจากพันธมิตรซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ระดับโลก ขณะที่ ทีมงานมีการพัฒนา Readyplanet All-in-One Platform เพื่อตอบโจทย์ด้านการขายและการตลาดดิจิทัลแบบรวมเป็นหนึ่งเดียว ทำให้บริษัทฯ ไม่มีความเสี่ยงในเรื่องการพึ่งพิงแพลตฟอร์มหรือซอฟต์แวร์ของผู้พัฒนาจากต่างประเทศ ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย คือ องค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ ครอบคลุมหลากหลายกลุ่มธุรกิจทั้ง Non-Ecommerce, E-Commerce และ โรงแรมรีสอร์ท

นอกจากนี้ เทรนด์การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยสนับสนุนการขายและการตลาดเป็นหัวใจในการเติบโต ทำให้ Readyplanet All-in-One Platform สามารตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า แม้ในปี 2564 ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์โควิดผ่อนคลายลง แต่ยังไม่จางหาย บริษัทฯ สามารถมีกำไรกลับมาเทิร์นอะราวด์ และในยุคหลังโควิด มองว่า READY จะสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ขณะที่ภาพรวมการดำเนินงานของ READY มีสัดส่วนรายได้ 95% ของทั้งหมดเป็น Recurring Income ที่จะได้รับค่าบริการเป็นรายเดือนหรือรายปี และยังได้รับชำระค่าใช้บริการล่วงหน้า ทำให้บริษัทมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน เป็นธุรกิจที่มีสภาพคล่องสูง เนื่องจากต้นทุนส่วนใหญ่คือบุคลากร และมีค่าใช้จ่ายคงที่ ทำให้แผนการขยายตลาดของบริษัทฯ ครั้งนี้ ยิ่งส่งผลดีต่อต่อความสามารถในการทำกำไร เพราะยิ่งแพลตฟอร์มได้รับการตอบรับมากเท่าไหร่ ต้นทุนต่อหน่วยก็จะลดลง

โดยผลประกอบการ 3 ปีก่อนหน้า (ปี 2562 – 2564) READY มีรายได้รวม 259.84 ล้านบาท 147.47 ล้านบาท 151.32 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 33.82 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 98.70 ล้านบาท และพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 13.82 ล้านบาท รายได้รวมงวด 9 เดือนแรกในปี 2565 มีรายได้รวม 119.06 ล้านบาท เป็นรายได้จาการให้บริการ 118.21 ล้านบาท เติบโต 12.03% กำไรสุทธิ 13.59 ล้านบาท เติบโต 189.15% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และแนวโน้มไตรมาส 4 มีทิศทางที่ดี มั่นใจ หลังระดมทุนครั้งนี้ พร้อมติดสปีดโต

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon