DDD โชว์กำไรจากการดำเนินงานปี 65 โต 405% บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผล 30 สตางค์ต่อหุ้น  

112

มิติหุ้น – บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก อุปกรณ์ตกแต่งทรงผม อุปกรณ์เสริมความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์เครื่องครัว แบรนด์ดัง อาทิ SNAILWHITE, NAMU LIFE, OXE’CURE, SPARKLE, LESASHA, JASON, EMJOI, BEAR และ @HOME ได้รายงานผลการดำเนินงานปี 2565 ด้วยรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 13.67 คิดเป็นมูลค่า 1,603 ล้านบาท สวนทางกับต้นทุนขายที่ลดลง ดันให้กำไรจากการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้นคิดเป็นมูลค่า 150 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 405 และโชว์กำไรสุทธิที่ 135 ล้านบาท บอร์ดมีมติอนุมัติจ่ายปันผลหุ้นละ 30 สตางค์ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 13 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายวันที่ 10 พฤษภาคม 2566

นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD กล่าวรายงานผลการดำเนินงานในปี 2565 ว่า “ในปี 2565 บริษัทฯมีรายได้จากการขาย 1,603 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 13.67 สืบเนื่องจากการที่บริษัทฯได้มีการปรับแผนการดำเนินงานหลายด้านทั้งเชิงรุกและการตั้งรับกับสภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจ โดยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์เสริมความงามเติบโตในอัตราร้อยละ 15.93 และ ร้อยละ 11.22 ตามลำดับ รายได้จากการขายในประเทศยังเป็นสัดส่วนหลักคิดเป็นร้อยละ 65.31 และตลาดต่างประเทศมีการขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 88.69 นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากการลงทุนและรายได้อื่นๆเข้ามาช่วยเสริมอีกกว่า 161 ล้านบาท

ในขณะที่ต้นทุนสินค้าและบริการสำหรับปี 2565 มีมูลค่า 557 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 34.72 ของรายได้จากการขาย โดยลดลงร้อยละ 4.90 point เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีต้นทุนสินค้าและบริการ 559 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.62 ของรายได้จากการขาย ผลสืบเนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น การรักษาประสิทธิภาพในการลดต้นทุนการผลิต รวมไปถึงการรับจ้างผลิตสินค้าให้กับบุคคลภายนอก (OEM) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับปี 2565 มีมูลค่า 896 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 55.92 ของรายได้จากการขาย โดยลดลงร้อยละ 2.35 point เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันในปี 2564 ที่มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 822 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.27 ของรายได้จากการขาย โดยสอดคล้องกับแผน Synergy Roadmap ภายในกลุ่มบริษัทเพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานภายในกลุ่มของบริษัทอย่างต่อเนื่อง

จากปัจจัยข้างต้น บริษัทฯมีผลประกอบการพลิกฟื้นจากผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 (Operating Performance Turnaround) ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมาและสร้างกำไรจากการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปี 2565 บริษัทฯมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 405 ที่มูลค่า 150 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 9.36 ของรายได้จากการขาย เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 29.73 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.11 ของรายได้จากการขาย”

โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2566 ได้มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น จำนวน 95,366,310 บาท  สำหรับรอบปีบัญชี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยการจ่ายเงินปันผลจะจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อปรากฎอยู่ในทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 13 มีนาคม 2566 ซึ่งเป็นการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) เพื่อสิทธิรับเงินปันผล และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2566 สำหรับการประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯจะจัดให้มีขึ้นในวันที่ 20 เมษายน 2566 โดยเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

นอกจากนี้ นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวต่อว่า “ขอถือโอกาสนี้กล่าวขอบพระคุณผู้ถือหุ้น ตลอดจนลูกค้าทุกท่านที่ให้ความเชื่อมั่นและสนับสนุนบริษัทฯเสมอมา ขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นว่าบริษัทฯจะยังคงมุ่งมั่นทุ่มเทในการดำเนินธุรกิจและสร้างสรรค์นวัตกรรมสินค้าภายใต้หลักจริยธรรมและแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีโดยจะมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนสืบไป”

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon