ในปี 66 ยังคงมีทั้งความท้ายและความน่าสนใจอยู่ ภายใต้หัวข้อ 3 Re ได้แก่ Reset การเริ่มต้นใหม่ Rebalance การปรับพอร์ตการลงทุน และ Recession การเกิดภาวะถดถอย ปัจจุบันยังคงเผชิญหน้ากับปัญหาความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ไม่ว่าจะเป็น จีน-ไต้หวัน-สหรัฐ หรือจากฝั่งยุโรป รัสเซีย-ยูเครน
รวมถึงการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้เงินเฟ้อที่ลดจากระดับ 6% ให้เหลือ 2% ด้วยเร่งขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่ผ่าน ด้วยการใช้นโยบายดอกเบี้ยในแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ ต้องมาติดตามกันต่อว่าการที่เร่งขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้เกิดภาวะถดถอยรึเปล่า ถือว่ายังเป็นปัจจัยที่น่าสนใจอยู่
ทางด้าน นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ กล่าวว่า หลังกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มประมาณการณ์เศรษฐกิจโลก (GDP) ปี 66 ขึ้นเป็น 2.9% จากเดิมที่ 2.7% หากลองสังเกตดูจะพบว่าตัวเลข GDP ของกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ลดลงจากปี 65 เกือบทั้งหมด ยกเว้นจีน ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่น่าจับตาในปีนี้ และจะส่งผลดีต่อประเทศในภูมิภาค
ดังนั้นภาพของตลาดหุ้นไทยคาดขึ้นไปแตะระดับ 1,740 จุด จากทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น สินทรัพย์เสี่ยงกลับมาเป็นที่น่าสนใจอีกครั้ง แต่ความกังวลเรื่องภาวะถดถอยยังไม่หายไป ให้จับตาดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในช่วง Q2/66-Q3/66 ถ้ามีแนวโน้มปรับตัวขึ้น Q4/66 จะเป็นที่น่าลงทุนอย่างมาก
ทั้งนี้ดัชนีอาจลงมาแตะ 1,600 จุด ถ้าผลประกอบการมีแนวโน้มปรับตัวลงให้ระมัดระวังการลงทุน นักท่องเที่ยวไม่ได้กลับมาเท่าที่ประเมินไว้ อัตราเงินเฟ้อไม่ลดลงตามเป้าหมาย ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังไม่จบลง
อย่างไรก็ตามมองว่าตลาดหุ้นไทย ยังให้ผลตอบแทนไม่เยอะเท่าที่ควรเมื่อเทียบตลาดหุ้นต่างประเทศที่เศรษฐกิจออกมาแย่ในปีที่แล้วทำให้ในปี 66 ยังมีช่องว่างที่จะโตขึ้นมากกว่า อีกทั้งยังมีปัจจัยเรื่องการเก็บภาษีขายหุ้น ซึ่งส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยแน่นอน
แนะนำกลยุทธ์การลงทุน โดยจัดพอร์ตการลงทุน 60% ลงทุนในหุ้น (แบ่งเป็นหุ้นต่างประเทศ 50% หุ้นไทย 10% เน้นการลงทุนในหุ้นต่างประเทศมากกว่าหุ้นไทย เนื่องจากในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา หุ้นต่างประเทศให้ผลตอบแทนมากกว่าอาทิ สหรัฐ ให้ผลตอบแทน 10% , จีน ให้ผลตอบแทน 20% ในขณะที่ไทยให้ผลตอบแทน 5%) ซึ่งอีก 20% ลงทุนในตราสารหนี้ และที่เหลือ 20% ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon