มิติหุ้น – บมจ.เดอะคลีนิกค์ฯ หรือ KLINIQ ท็อปฟอร์ม! เฉพาะไตรมาส 4/2565 กำไรทำนิวไฮที่ 60.70 ล้านบาท หนุนกำไรรวมปี 2565 ทะยานสู่ระดับ 205.57 ล้านบาท โต 59% ด้านรายได้รวมพุ่งแตะ 1,750.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 91.5% ส่วนใหญ่มาจากแผนกผิวหนังและความงาม ขณะที่ศัลยกรรมตกแต่งส่อแววรุ่ง รายได้พุ่ง 554.1% บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลหุ้นละ 0.50 บาท กำหนดสิทธิ์ (RD) 9 พ.ค.นี้
นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดปี 2565 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2565) ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 205.57 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้น 1.21 บาท จากปี 2564 มีกำไรสุทธิ 129.26 ล้านบาท และมีกำไรต่อหุ้น 0.80 บาท คิดเป็นกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 76.31 ล้านบาท หรือ 59% โดยแบรนด์ THE KLINIQUE เป็นแบรนด์ที่ทำรายได้ในสัดส่วน 95% หรือทำรายได้ 1,663.93 ล้านบาท ตามด้วยแบรนด์ THE KLINIQUE SURGERY CENTER ทำรายได้ในสัดส่วน 2.9% หรือทำรายได้ 51.03 ล้านบาท และแบรนด์ L.A.B.X ทำรายได้ในสัดส่วน 2.1% หรือทำรายได้ 36.03 ล้านบาท
โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 60.70 ล้านบาท ซึ่งสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ เนื่องจากมีรายได้เติบโตทุกแผนกและเติบโตขึ้นทุกแบรนด์ ขณะที่ Same Store Sale Growth (SSSG) ในไตรมาส 4/2565 เทียบกับไตรมาส 3/2565 เท่ากับ 16% และ SSSG ของปี 2565 เทียบกับปี 2564 เท่ากับ 65%
สำหรับปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,750.99 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 914.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 836.56 ล้านบาท หรือ 91.5% ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่ 84.7% มาจากรายได้แผนกผิวหนังและความงาม ที่มีจำนวน 1,483.58 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 785.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 698.37 ล้านบาท หรือ 89.9% ตามด้วยรายได้แผนกชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ ในสัดส่วน 7.3% หรือจากรายได้จำนวน 127.44 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 74.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.78 ล้านบาท หรือ 70.7%
ตามด้วยรายได้จากแผนกลดน้ำหนักและดูแลรูปร่างในสัดส่วน 5.1% หรือจากรายได้ 88.93 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ 46.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.17 ล้านบาท หรือ 90.2% และสุดท้ายแผนกศัลยกรรมตกแต่งซึ่งมีสัดส่วนรายได้ 2.9% สามารถทำยอดการเติบโตได้ดี โดยมีรายได้ 51.03 ล้านบาท จากการเปิดศูนย์ศัลยกรรมเพียง 3 ไตรมาส โดยเพิ่มขึ้น 43.23 ล้านบาท หรือ 554.1% จากปี 2564
“ปี 2565 เดอะคลีนิกค์ฯ มีรายได้จากการขายและบริการ จำนวน 1,639.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.5% จากปี 2564 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการขยายสาขา การจัดซื้อเครื่องมือแพทย์เพิ่มเติม และสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย” นายแพทย์อภิรุจ กล่าว
นายแพทย์อภิรุจ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดให้แก่ผู้ถือหุ้น สำหรับงวดการดำเนินงานวันที่ 1 สิงหาคม 2565 ถึง 31 ธันวาคม 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท และได้กำหนดจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 เมษายน 2566 โดยกำหนดสิทธิ์ (RD) 9 พฤษภาคม และจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2566
ปัจจุบัน 0เดอะคลีนิกค์ฯ มีสาขาที่เปิดดำเนินการทั้งสิ้น 41 สาขา ประกอบด้วย THE KLINIQUE 36 สาขา, L.A.B.X 4 สาขา, และศูนย์ศัลยกรรม 1 สาขา
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon