มิติหุ้น – นายณรงค์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการสายงานขายและธุรกิจค้าปลีก บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า ในปี 2566 ตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโตอีกไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน เนื่องจากภาพรวมอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน ไอที และเทคโนโลยี เติบโตขึ้น มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ และแบรนด์น้องใหม่เข้ามาสร้างสีสัน โดยเฉพาะตลาดสมาร์ทโฟนที่เฟื่องฟู โดยสินค้ารุ่นใหม่ที่เปิดตัว ได้แก่ Samsung Oppo Vivo รวมถึงแบรนด์ Honor เข้ามาเสริมพอร์ต ขณะที่ ผลกระทบปัญหาสินค้าขาดแคลน โดยเฉพาะ iPhone 14 กลับคืนสู่สภาวะปกติเรียบร้อยแล้ว สนับสนุนยอดขายไตรมาส 1 ปีนี้ มีทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากปีก่อนได้
อีกทั้ง ในปี 2566 จะเป็นปีที่ COM7 โฟกัสการขยายกลุ่มสินค้ากลุ่มแอคเซสเซอรี (Accessories) โดยเปิดตัวสินค้าเฮาส์แบรนด์ ภายใต้ชื่อ BLUE BOX , TECHPRO , QPLUS , FOX , และ KINGKONG เพื่อสอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ เสริมภาพรวมความสามารถการทำกำไรให้เติบโตยิ่งขึ้น
และเพื่อเปิดเกมบุกตลาดแอคเซสเซอรี (Accessories) ทั่วประเทศ COM7 ได้เข้าไปลงทุนซื้อสิทธิ์ในการบริหารร้าน “BeBePhone” จำนวน 106 สาขา เริ่มเข้ามาบริหารจัดการตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมา สนับสนุนช่องทางการจำหน่าย COM7 แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และคาดปีนี้จะเปิด BeBePhone เพิ่มอีก 30 สาขา นับเป็นการเสริมทัพช่องทางการจำหน่ายสินค้าเฮาส์แบรนด์ให้แข็งแกร่งขึ้น
อย่างไรก็ดี ด้วยความเชี่ยวชาญในการขยายธุรกิจค้าปลีก COM7 มุ่งเน้นต่อยอด Ecosystem ทางธุรกิจให้ครบวงจร เพื่อสนับสนุนอัตรากำไรของ COM7 ให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต ได้แก่ การเข้าไปลงทุนร่วมกับกลุ่ม BDMS เข้าสู่ธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ด้านสุขภาพ ตั้งเป้าเปิดร้านขายยาภายใต้แบรนด์ Dr.Pharma ในปีนี้มี 20 สาขา จากปัจจุบันมี 2 สาขา และการแตกไลน์ธุรกิจ ตอบโจทย์กลุ่มคนรักสัตว์ และสังคมผู้สูงอายุ ที่มีเทรนด์เลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อน ในปีนี้ COM7 เตรียมเปิดร้านอาหารสัตว์เลี้ยงในชื่อแบรนด์ “Pet Paw” ในเดือนเมษายน คาดสิ้นปีมีร้านอาหารสัตว์เลี้ยง 25 สาขา
ทั้งนี้ ปัจจุบัน COM7 มีสาขาภายใต้การบริหารจำนวน 1,268 สาขา (รวม BeBePhone 106 สาขา) ประกอบด้วย BaNANA, Studio7, Bb, B-Play, BKK, E-quip, iCare, KingKong Phone, Franchise, True Shop by Com7, U-Store, Brand shop, Dr.Pharma และ BeBePhone คาดเปิดสาขาในปีนี้เพิ่มอีกราว 200 สาขา (จากสิ้นปี 2565 มี 1,162 สาขา)
ในด้านช่องทางการจำหน่ายผ่านออนไลน์มีการเติบโตต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญ สอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และเป็นไปตามกลยุทธ์ Omni Channel มุ่งเน้นการขยายตลาดจากออนไลน์ สู่ออฟไลน์ หลังมีแพลตฟอร์มที่ครอบคลุม ต่อจิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายในการเปิดให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ สามารถรับสินค้าได้ทุกสาขาทั่วประเทศ ด้วยจุดแข็ง COM7 มีสาขามากกว่า 1,000 แห่ง ลงลึกได้ทั่วถึง ในระดับอำเภอ และตำบล โดยตั้งเป้าปีนี้ยอดขายออนไลน์เติบโตมากกว่า 20% จากปีก่อน
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ณ สิ้นปี 2565 มีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 3,037.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.5% จากปี 2564 ที่มีกำไร 2,630.4 ล้านบาท มีรายได้จากการขายและการให้บริการปีนี้ 62,732.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,606.2 ล้านบาท หรือเพิ่ม 22.7% จากปัจจัยหนุนเรื่องภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติจ่ายปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเป็นเงินสดจำนวน 0.75 บาท/หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 8 มีนาคม 2566 และวันที่จ่ายปันผล 9 พฤษภาคม 2566
ทั้งนี้ นายณรงค์ ศรีวรรณวิทย์ นำทีมผู้บริหาร ประกอบด้วย นายประณต แสงคล้อย Head of Smartphone Category และ นางศันสนีย์ แสงโรจน์เพิ่มสุข สว่างเนตร Head of Marketing ให้ข้อมูลนักลงทุนในงาน นำเสนอข้อมูลบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ และผ่านช่องทางออนไลน์ ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคัก
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon