มิติหุ้น-คุณจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) “SKE Group” แถลงผลประกอบการปี 2565 รายได้รวมอยู่ที่ 497.42 ล้านบาท พร้อมแถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจของ SKE Group ในปี 2566 นี้ในการก้าวสู่รายได้ 1,000 ล้านบาท ด้วยนโยบายการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด เพื่อ ”ร่วมสร้างสังคมและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นด้วยพลังงานสะอาด” ตามวิสัยทัศน์ใหม่ขององค์กร
ผลประกอบการในปี 2565 ของ SKE Group มีรายได้รวมอยู่ที่ 497.42 ล้านบาท ทั้งนี้สัดส่วนรายได้ของ SKE Group เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตค่อนข้างมาก จากที่เคยพึ่งพารายได้จากธุรกิจสถานีก๊าซธรรมชาติหลักโดยเอกชนกว่าร้อยละ 50 แต่ในปี 2565 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 25 โดยมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอื่นที่ SKE Group ดำเนินการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาและได้รับรู้รายได้ตามแผนธุรกิจที่วางไว้ ดังเช่น ธุรกิจโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่กระทิง ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้มากที่สุด โดยอยู่ที่ร้อยละ 57 และยังมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอื่นๆ ทั้งในส่วนของธุรกิจบริหารจัดการของเสียหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตราย โดยการคัดแยกและผลิตเป็นเชื้อเพลิงขยะ RDF ที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นและธุรกิจ Financial Technology
ในปี 2565 ที่ผ่านมา เป็นปีแห่งการลงทุนและการเปลี่ยนแปลงของ SKE Group โดย SKE Group ได้เข้าซื้อบริษัท แวนต้า แคปปิตอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ Financial Technology เนื่องจากเล็งเห็นว่าเป็นธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลก รวมถึงการลงทุนเพิ่มในบริษัท เอ็น15 เทคโนโลยี จำกัด “N15 Technology” เพื่อต่อยอดธุรกิจบริหารจัดการขยะและผลิตเป็นเชื้อเพลิงขยะ RDF จังหวัดสระบุรี ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 400 ล้านบาท โดยเริ่มก่อสร้าง ติดตั้งเครื่องจักร ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 และในปัจจุบันดำเนินการทดสอบระบบเรียบร้อยแล้วในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเริ่มขยายการลงทุนไปในธุรกิจต้นน้ำโดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพในการบริหารจัดการ landfill เพื่อให้เช่าเครื่องจักรสำหรับการคัดแยกและผลิตเชื้อเพลิงขยะ RDF ซึ่งถือเป็นการบริหารจัดการขยะได้ตั้งแต่ต้นทาง
ทั้งนี้การลงทุนโรงงานผลิตเชื้อเพลิงขยะ RDF จังหวัดชลบุรี และการให้เช่าเครื่องจักรสำหรับบริหารจัดการขยะเป็นไปตามนโยบายการลงทุนของ SKE Group ที่มุ่งมั่นจะผนึกกำลังในการดำเนินธุรกิจด้านพลังงานสะอาด เพื่อลดปัญหาของสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการบริหารจัดการขยะที่ไม่ถูกวิธี และช่วยแก้ไขปัญหาโลกร้อนและภาวะเรือนกระจก
ในปี 2566 นี้ SKE Group มาพร้อมกับทิศทางการดำเนินธุรกิจเพื่อก้าวสู่รายได้ 1,000 ล้านบาท ภายใต้วิสัยทัศน์ใหม่ “ร่วมสร้างสังคมและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นด้วยพลังงานสะอาด” โดยในปีนี้ตามแผนธุรกิจ SKE Group จะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงงานผลิตเชื้อเพลิงขยะ RDF จังหวัดสระบุรี ซึ่งมีกำลังการผลิตเชื้อเพลิงขยะ RDF กว่า 300,000 ตันต่อปี และจะเริ่มดำเนินการส่งเชื้อเพลิงตามสัญญาให้กับบริษัท เอส ซี ไอ อีโค่ เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งเป็นสัญญาระยะยาว 3 ปี ปริมาณการส่งมอบเชื้อเพลิงกว่า 135,000 ตันต่อปี มูลค่าตามสัญญารวมกว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้กำลังผลิตในส่วนที่เหลือได้มีการทำแผนสำหรับส่งมอบเชื้อเพลิงขยะ RDF ให้กับลูกค้ากลุ่มโรงปูนซีเมนต์และโรงไฟฟ้าขยะแล้ว ซึ่งโรงงานแห่งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสังคมและสิ่งแวดล้อมในการนำขยะที่บริหารจัดการขยะไม่ถูกวิธี ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาทางสิ่งแวดล้อมมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงขยะ RDF
สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์เพื่อทดแทนการใช้พลังงานถ่านหิน และนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อสร้างความร้อนให้กับโรงไฟฟ้าขยะ รวมถึงในปีนี้ SKE Group มีนโยบายในการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกบนกระแสการทำธุรกิจ Green Economy ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ โดยจะเน้นกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจแบบครอบคลุมในการขยายในแนวดิ่ง Vertical Integration
โดยโฟกัสกับการลงทุนของ N15 Technology ซึ่งเป็นการขยายธุรกิจครอบคลุมธุรกิจบริหารจัดการขยะตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำที่มีความเกี่ยวข้องกันในห่วงโซ่อุปทาน โดยจัดสรรงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 100 ล้านบาท ทั้งนี้การดำเนินธุรกิจของ SKE Group จะยังคงมุ่นมั่นที่จะสร้างการเติบโตของธุรกิจ พร้อมตระหนักถึงความสำคัญของสังคมและสิ่งแวดล้อมอยู่เสมอเพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon