มิติหุ้น – บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำขนาดใหญ่ และบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “โลตัส” (Lotus’s) เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกว่า ครั้งนี้บริษัทจะออกหุ้นกู้จำนวน 5 ชุด ประกอบด้วย รุ่นอายุ 1 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ย [2.80 – 2.95]% ต่อปี อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย [3.20 – 3.30]% ต่อปี อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย [3.50 – 3.60]% ต่อปี อายุ 8 ปี อัตราดอกเบี้ย [3.75 – 3.85]% ต่อปี และอายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย [4.00 – 4.15]% ต่อปี (บริษัทฯ จะแจ้งอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนอีกครั้ง) โดยจะเปิดจองซื้อผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 9 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) รวมถึงทรูมันนี่ วอลเล็ท ซึ่งคาดว่าจะเสนอขายได้ในระหว่างวันที่ 17-19 เมษายน 2566
ทั้งนี้ หุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “A+” ซึ่งสูงกว่าเกรดขั้นต่ำในระดับลงทุน (Investment Grade) ถึง 5 อันดับ เช่นเดียวกับอันดับเครดิตองค์กรของบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ซึ่งอยู่ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” โดยเป็นการจัดอันดับ ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 สะท้อนสถานะความเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกแบบออมนิแชนแนลที่มีช่องทางหลากหลายและครอบคลุมทั้งออฟไลน์และออนไลน์
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ให้กับผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ในปี 2565 และครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกสำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ให้กับผู้ลงทุนประชาชนทั่วไป ซึ่งนับเป็นโอกาสดีของผู้ลงทุนประชาชนทั่วไปที่จะสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทที่มีศักยภาพและโอกาสในการเติบโต โดยเฉพาะในธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ผ่านช่องทางแบบออมนิแชนแนลที่ครอบคลุมทั้งสาขาและออนไลน์ รวมถึงธุรกิจพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าที่เติมเต็มความต้องการของลูกค้าที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย บริษัทฯ มั่นใจว่า การออกและเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และประสบความสำเร็จเหมือนครั้งที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากความหลากหลายของช่วงอายุหุ้นกู้ที่ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ รวมถึงผลตอบแทนจากการลงทุนที่เหมาะสม ภายใต้อันดับเครดิตในระดับ A+ จากทริสเรทติ้ง ซึ่งตอกย้ำถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง รวมถึงโอกาสและศักยภาพในการเติบโตของบริษัทฯ
ปัจจุบัน บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำ และบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้าในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ “โลตัส” (Lotus’s) ถือเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกแบบออมนิแชนแนล ที่มีช่องทางจัดจำหน่ายหลายรูปแบบ โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 “โลตัส” (Lotus’s) มีร้านค้าปลีกจำนวน 2,578 แห่งทั่วประเทศไทย ประกอบด้วยร้านไฮเปอร์มาร์เก็ต 223 แห่ง ซูเปอร์มาร์เก็ต 202 แห่ง และมินิซูเปอร์มาร์เก็ต 2,153 แห่ง ซึ่งธุรกิจในประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจากระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่แข็งแกร่ง ตลอดจนระบบการกระจายสินค้าและเครือข่ายด้านโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเร่งการเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายร้านค้าทั่วประเทศในการเป็น fulfillment center จัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพทั่วประเทศไทย รวมทั้งยังร่วมมือกับธุรกิจแพลตฟอร์มออนไลน์ (Online Marketplace) เพื่อเพิ่มจุดจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภค ตลอดจนการเปิดตัวธุรกิจใหม่ ทั้งร้านกาแฟ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม และเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) ซึ่งสะท้อนการปรับตัวของ “โลตัส” (Lotus’s) ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ และรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า โดยมีพื้นที่เช่าในศูนย์การค้า 200 แห่ง (ไม่รวมศูนย์การค้าที่มีการลงทุนโดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าโลตัสส์ รีเทล โกรท หรือ LPF จำนวน 23 แห่ง) มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิถาวรรวมประมาณ 806,081 ตารางเมตร โดยมีร้านไฮเปอร์มาร์เก็ตของ “โลตัส” (Lotus’s) เป็นร้านค้าหลัก โดยในจำนวนศูนย์การค้าทั้งหมด บริษัทฯ ถือกรรมสิทธิ์ (Freehold) ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าจำนวน 70 แห่ง ขณะที่อัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ของศูนย์การค้าอยู่ที่ประมาณ 90% และบริษัทฯ ถือหน่วยลงทุน 25% ในกองทุนรวม LPF ที่ลงทุนในศูนย์การค้า 23 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีพื้นที่ให้เช่าสุทธิถาวรรวมประมาณ 339,700 ตารางเมตร ทั้งนี้ ผลประกอบการในปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 183,791.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2564 สะท้อนการฟื้นตัวกลับมาของธุรกิจ อันเป็นผลจากการที่สามารถเปิดให้บริการศูนย์การค้าได้ตามปกติ และประชาชนมีความต้องการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon