มิติหุ้น – บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ เผยถึงพันธกิจมุ่งคืนประโยชน์สู่สังคมผ่าน 1 ใน 3 แกนหลักยุทธศาสตร์แนวคิดพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ESG (Environment, Social, และ Governance) เดินหน้าแผนงานความรับผิดชอบต่อสังคม สานต่อโครงการ “NER ห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้” เร่งแก้ไขปัญหาขาดสื่อการเรียนการสอนในห้องสมุดในโรงเรียนพื้นที่ชนบท
ห้องสมุดโรงเรียน เป็นแหล่งการเรียนรู้ภายในโรงเรียนที่มีความสำคัญยิ่งต่อนักเรียนและครูผู้สอน ในการเรียนรู้ศึกษาค้นคว้า แสวงหาคำตอบ และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง บริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงจัดทำโครงการนี้เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ห้องสมุดของโรงเรียนมีหนังสือที่มีสาระประโยชน์ มีปริมาณที่เพียงพอ และเหมาะสมตรงกับความต้องการของผู้เรียนรู้และส่งเสริมบรรยากาศการอ่านและการเรียนรู้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
คุณเกศนรี จองโชติศิริกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาด/ควบคุมคุณภาพ บมจ.นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆและกลุ่มผู้ค้าคนกลางทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยว่า ประเทศไทยยังคงเผชิญกับโรงเรียนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ตามต่างจังหวัดขาดแคลนหนังสือ ส่งผลให้เด็กบางคนขาดทักษะการอ่านและมีความรู้ไม่ครอบคลุม
เพื่อเร่งแก้ไขปัญหานี้ในโรงเรียนพื้นที่ชนบท และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บริษัทจึงตั้งเป้าหมายของโครงการนี้เพื่อ
1. เพื่อให้นักเรียนได้เข้าถึงแหล่งข้อมูลการศึกษาหาความรู้
2. เพื่อให้ห้องสมุดมีหนังสือที่มีสาระประโยชน์ และเหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน
3. เพื่อส่งเสริมการรักการอ่านและการเรียนรู้ให้มากขึ้น
4. เพื่อสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนและพัฒนาองค์ความรู้ให้กับนักเรียนและครูผู้สอน
5. เพื่อส่งเสริมสัมพันธภาพที่ดีระหว่างโรงเรียนและชุมชน
ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธกิจมุ่งมั่นคืนประโยชน์สู่สังคม จึงเดินหน้าสานต่อโครงการปันน้ำใจ ห่วงใยโรงเรียน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี ย้ำยุทธศาสตร์ด้านการจัดการคุณภาพชีวิต 1 ใน 3 แกนหลักยุทธศาสตร์แนวคิดพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ESG ด้านการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม (corporate social responsibility หรือ CSR) ในปี 2564 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยบริษัทได้พัฒนาห้องสมุดไปแล้วจำนวน 9 โรงเรียน ซึ่งโรงเรียนทั้งหมดอยู่ภายในระยะรัศมีห่างจากโรงงานที่อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ไม่เกิน 6 กิโลเมตร ดังนี้
ปี 2564
1.โรงเรียนบ้านบาตร
2.โรงเรียนบ้านโคกเพชร
3.โรงเรียนบ้านกระสัง
ปี 2565
1.โรงเรียนวัดบ้านตะโกตาพิ
2.โรงเรียนบ้านตลุงเก่า
3.โรงเรียนบ้านโคกย่าง
4.โรงเรียนวัดบ้านประทัดบุ
5.โรงเรียนบ้านโคกกลาง
6.โรงเรียนบ้านหนองม่วง
โดยใน 2566 บริษัทมีแผนที่จะปรับปรุงห้องสมุดโรงเรียนให้เป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยคัดเลือกจาก 9 โรงเรียนที่ได้พัฒนาห้องสมุดไปแล้ว เลือกจากโรงเรียนที่มีความพร้อมด้านสถานที่ ด้านการติดตั้งตัวรับสัญญาณอินเทอร์เน็ต และด้านบุคลากรที่มีความรู้ความเชียวชาญในการให้คำปรึกษากับนักเรียนในการค้นคว้าหาความรู้จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ได้มีโครงการดำเนินการด้านสุขอนามัยในโรงอาหารของโรงเรียน และมีโครงการที่จัดหาอุปกรณ์การศึกษาและอุปกรณ์กีฬา ให้เยาวชนได้ใช้ประโยชน์อีกด้วย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon