TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

68

ราคาน้ำมันดิบปรับลด ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของธนาคารในยุโรป

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

– ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในยุโรปร่วงลงกว่า 2.3% โดยหุ้นของดอยช์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมนี ตกลง 5.4% หลังจากที่ต้นทุนประกันความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้น ในขณะที่หุ้นเครดิต สวิส และหุ้นยูบีเอส ร่วงลง 6.4% และ 6.3% ตามลำดับ หลังสำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ทั้งสองธนาคารอยู่ภายใต้การตรวจสอบของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ว่ามีส่วนในการช่วยเหลือให้รัสเซียหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรหรือไม่

– ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าที่ขึ้นกดดันราคาน้ำมันดิบ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับเพิ่มขึ้น 0.6% แตะระดับ 103.1 ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันลดลง สำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบจะมีราคาแพงขึ้น

– นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย กล่าวว่าการลดการผลิตน้ำมันของรัสเซียที่ประกาศก่อนหน้านี้ 500,000 บาร์เรลต่อวัน จะลดลงจากกำลังการผลิต 10.2 ล้านบาร์เรลต่อวันใน ก.พ. นั่นหมายถึงรัสเซียตั้งเป้าที่จะผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ระหว่าง มี.ค.-มิ.ย. ซึ่งเป็นการลดกำลังการผลิตที่น้อยกว่าที่คาดไว้ ว่ากำลังการผลิตของรัสเซียใน มี.ค. จะลดมาอยู่ที่ระดับ 9.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน

ราคาน้ำมันเบนซิน – ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในเอเซียยังคงอยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะญี่ปุ่น เกาหลีใต้และอินเดีย ในขณะที่อุปทานลดลงจากการส่งออกที่ลดลงของสิงคโปร์

ราคาน้ำมันดีเซล – ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 1.85 % แตะระดับ 9.63 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงสุดในรอบ 17 สัปดาห์ อีกทั้งการส่งออกที่เพิ่มสูงขึ้นของอินเดียและเกาหลีใต้

 

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon