มิติหุ้น – นางสาวนันทวรรณ สุวรรณเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD กล่าวถึงรายงานผลการดำเนินงานในปี 2565 ว่า “ในปี 2565 บริษัทฯมีรายได้จากการขาย 1,603 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 13.57 สืบเนื่องจากการที่บริษัทฯได้มีการปรับแผนการดำเนินงานหลายด้านเพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องกับสภาวะความผันผวนของเศรษฐกิจ โดยเป็นรายได้จากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวร้อยละ 50.90 และผลิตภัณฑ์เสริมความงามร้อยละ 49.10 ซึ่งเติบโตทั้ง 2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ในอัตราร้อยละ 15.93 และ ร้อยละ 11.22 ตามลำดับ รายได้จากการขายในประเทศยังเป็นสัดส่วนหลักคิดเป็นร้อยละ 65.31 และตลาดต่างประเทศมีการขยายตัวจากปีก่อนร้อยละ 88.69 ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทฯที่มุ่งเป็น “บริษัทชั้นนำที่มุ่งดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพ ความงาม สุขภาวะและคุณภาพชีวิตที่ดี สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิต โดยมีโครงข่ายครอบคลุมทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”
ในขณะที่ต้นทุนสินค้าและบริการสำหรับปี 2565 มีมูลค่า 557 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 34.72 ของรายได้จากการขาย โดยลดลงร้อยละ 4.90 point เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีต้นทุนสินค้าและบริการ 559 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.62 ของรายได้จากการขาย ผลสืบเนื่องจากอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น การรักษาประสิทธิภาพในการลดต้นทุนการผลิต รวมไปถึงการรับจ้างผลิตสินค้าให้กับบุคคลภายนอก (OEM) ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสำหรับปี 2565 มีมูลค่า 896 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 55.92 ของรายได้จากการขาย โดยลดลงร้อยละ 2.35 point เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันในปี 2564 ที่มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 822 ล้านบาท หรือร้อยละ 58.27 ของรายได้จากการขาย โดยสอดคล้องกับแผน Synergy Roadmap ภายในกลุ่มบริษัทเพื่อลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานภายในกลุ่มของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือว่าเป็นปีที่บริษัทฯ มีผลประกอบการที่เติบโตจาก Core business และยังมีกระแสเงินสดจากกิจกรรมการดำเนินงานที่กลับมาเป็นบวกด้วย
สำหรับปี 2566 จากการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นโยบายการเปิดประเทศที่ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวอย่างปกติวิสัย โดยภาคการท่องเที่ยวจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษกิฐที่สำคัญของประเทศไทยที่จะช่วยเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน รวมไปถึงการเติบโตของภาคการส่งออกที่จะผลักดันเศรษฐกิจไทยปีนี้ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนการดำเนินงาน โดยตั้งเป้าปี 2566 รายได้เติบโตร้อยละ 20 สอดคล้องกับกลยุทธ์ 4 ด้าน ประกอบด้วยกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมสินค้า ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านการขยายธุรกิจ และด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการธุรกิจ โดยกลยุทธดังกล่าวจะเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของบริษัทฯ เพื่อไปสู่การเติบโตอย่างยังยืนในระยะยาว
โดยกลยุทธ์ด้านการขยายธุรกิจ ถือเป็นหัวใจหลักที่จะทำให้ DDD Group เติบโตแบบก้าวกระโดด บริษัทฯมีแนวทางการขยายธุรกิจครอบคลุมถึงการเติบโตด้วยทรัพยากรภายใน (Organic Growth) และการเติบโตจากภายนอก (Inorganic Growth) รวมไปถึงการหาพันธมิตรทางธุรกิจ การควบรวมกิจการ การซื้อลิขสิทธิ์แบรนด์สินค้าและเครื่องหมายการค้าเพื่อนำเข้าและจัดจำหน่ายหรือผลิตและจัดจำหน่ายภายในประเทศ (Authorized Distributor) การขายลิขสิทธิ์แบรนด์สินค้าเพื่อผลิตและจัดจำหน่ายในต่างประเทศ (Brand Principal) และรูปแบบการดำเนินธุรกิจในรูปแบบอื่น (New Business Model) ภายใต้การพิจารณาความเสี่ยงและความคุ้มค่าอย่างรอบคอบก่อนการลงทุน
นอกจากนี้ แนวทางการขยายธุรกิจของบริษัทจะครอบคลุมสินค้า 5 กลุ่มหลักได้แก่ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skin Care) ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว (Personal Care) ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์เสริมความงาม (Beauty Equipment) ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ (Sports and Wellness) และ ธุรกิจค้าปลีกและผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องกับไลฟ์สไตล์ (Retail and Lifestyle) โดยอาศัยจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญและเข้าใจตลาด ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและศักยภาพของตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon