มิติหุ้น-CHG โดยบล.เมย์แบงก์(ประเทศไทย) ระบุว่า ยังคงคำแนะนำซื้อ และเพิ่มราคาเป้าหมายอีก 2% เป็น 4.5 บาท สะท้อนการขึ้นอัตราการจ่ายของประกันสังคมในส่วนของการจ่ายแบบคงที่ต่อหัว ที่จะเพิ่ม 10.2% เป็น 1,808 บาทต่อหัวต่อปี เริ่ม 1 พ.ค. 66 ทำให้ เราปรับประมาณการรายได้ขึ้น 1.2-1.3% ในปี 66-67 หรือ 7.8 พันลบ. และ 8.6 พันลบ. ตามลำดับ และกำไรขึ้น 1.1-1.5% ในช่วงปี 66-67 มาอยู่ที่ 1.4 พันลบ. และ 1.5 พันลบ. ตามลำดับ
นอกจากนี้ CHG เป็นหุ้นเด่นในอุตสาหกรรมโรงพยาบาล เนื่องจากอนาคตสดจากการเติบโตของอุปสงค์ในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ที่เป็นศูนย์กลางทางด้านอุตสาหกรรมของประเทศไทย
คาดว่าจำนวนผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น 4% ในปี 66
สำนักงานประกันสังคม(สปสช) เพิ่มอัตราจ่ายในทุก 2-3 ปี เพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นตามเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ในปี 2566 เราคาดว่าจำนวนผู้ป่วยประกันตนของ CHG จะเพิ่มขึ้น 4% เป็น 524,926 คนเนื่องจากเศรษฐกิจไทยและการจ้างงานฟื้นตัวหลังโควิดในไตรมาส 2/66 CHG วางแผนที่จะเปิดโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่งคือศูนย์การแพทย์จุฬารัตน์ ซึ่งมีความชำนาญในด้านมะเร็งและการอุดตันของเส้นโลหิตที่ไปเลี้ยงสมอง(stroke) ที่เน้นผู้ป่วยประกันสังคมเป็นหลักและโรงพยาบาลจุฬารัตน์แม่สอดที่เน้นรักษาผู้ป่วยไทยและเมียนมาร์เราคาดว่าเงินลงทุนในปีนี้คือ 817 ล้านบาทและแหล่งเงินทุนมาจากกระแสเงินสดภายในบริษัท
การเติบโตระยะยาวในเขตEEC
โรงพยาบาล 9 แห่งของ CHG อยู่ในเขต EEC ทั้งหมดความหนาแน่นของประชากรและรายได้สูงในเขตEEC ทำให้โรงพยาบาลเอกชนในเขตนี้มีอุปสงค์ที่ดีเยี่ยมอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ป่วยประกันสังคมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักและเติบโตตามการจ้างงาน โดยปัจจุบันรายได้จากผู้ป่วยประกันสังคมมีสัดส่วน 31% ของรายได้ทั้งหมด
นอกจากนี้เรายังชอบการขยายตัวของธุรกิจที่ต่อเนื่องโดยมีจำนวนเตียง 66% เพิ่มขึ้นในปี 66-69 และการขยายตัวนี้อยู่ในโรงพยาบาลปัจจุบันเป็นหลักดังนั้นจึงมีค่าเสื่อมราคาไม่มาก
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/