มิติหุ้น – นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี และร้านอาหารใน
เครือจำนวน 19 แบรนด์ กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจร้านอาหารของไทยเติบโตขึ้น จากปัจจัยบวกด้านการท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก รวมถึงผู้บริโภคในประเทศก็ออกมาใช้ชีวิต จับจ่ายใช้สอย รับประทานอาหารนอกบ้านตามปกติมากขึ้น ซึ่งข้อมูลศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ธุรกิจอาหารในไทยปีนี้จะเติบโต 2.7-4.5% จากปี 2565 หรือมีมูลค่าประมาณ 4.18-4.25 แสนล้านบาท
ปัจจุบันพื้นที่ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี มีจำนวนการจัดงาน ผู้คนผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯเพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจร้านอาหารในเครือก็เติบโตขึ้นตามไปด้วย ซึ่งปัจจุบันมีร้านอาหารในเครือทั้งหมด 19 แบรนด์ รวม 32 สาขา แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. กลุ่มร้านอาหารจีน 4 แบรนด์ ได้แก่ ฮ่องกง ฟิชเชอร์แมน, ฮ่องกง คาเฟ่, ฮ่องกงสุกี้ และ เฮยยิน 2.กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น 2 แบรนด์ คือ สึโบฮาจิ และไทโช เต ราเมน 3.กลุ่มร้านกาแฟ 2 แบรนด์ ได้แก่ เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์ และอีส คาเฟ่ 4.กลุ่มร้านอาหารนานาชาติ 9 แบรนด์ ได้แก่ ทองหล่อ ,เทอราซซ่า, อีสาน แอ็ท อารีน่า,อีสานจิ้มจุ่ม,แจ็คกี้ ซีฟู้ด,บรีซ คาเฟ่ แอนด์ บาร์,อุวะจิมะ,อิมแพ็ค ฟาร์ม และ Beverage Bar 5.กลุ่มผับและบาร์ รวม 2 แบรนด์ คือ ฟลาน โอเบรียนส์ ไอริส ผับ และ เรโทร บาร์ แอนด์ คาเฟ่
สำหรับทิศทางปีนี้ จะให้ความสำคัญกับธุรกิจร้านอาหารต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปที่ 2 กลยุทธ์หลัก เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจนี้ ได้แก่ 1.การปรับโฉม การขยายสาขาใหม่ โดยร้านอาหารที่อยู่บนพื้นที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี จะเน้นการปรับโฉมเป็นหลัก เช่น ปรับปรุงร้านใหม่ จัดโซนร้านอาหารตามประเภทอาหารให้ชัดเจน เพิ่มพื้นที่นั่งสำหรับพบปะสังสรรค์ของกลุ่มเพื่อน (Hang Out)ในแต่ละร้านมากขึ้น เป็นต้น เพื่อรองรับกลุ่มผู้จัดงาน ผู้เข้ามาใช้บริการ ร้านอาหารภายในศูนย์ โดยเฉพาะงานระดับอินเตอร์เนชั่นนอล ซึ่งหมุนเวียนเข้ามาจัดที่อิมแพ็ค เมืองทองธานีเพิ่มขึ้น
ส่วนการขยายสาขานอกพื้นที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ยังคงเดินหน้าต่อเนื่อง จะโฟกัสไปที่ร้านอาหาร 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มร้านอาหารญี่ปุ่น ภายใต้แบรนด์ สึโบฮาจิ ร้านอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับจากฮอกไกโด โดยได้เปิดสาขาที่ 7 โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และ2.กลุ่มร้านกาแฟ เดอะ คอฟฟี่ อะคาเดมิคส์ จะเน้นเปิดร้านรูปแบบคีออส (Kiosk)มากขึ้นตามพื้นที่อาคาร สำนักงาน
ส่วนที่ 2 การพัฒนาบริการใหม่ๆจากธุรกิจร้านอาหารมากขึ้น เช่น บริการเคเทอริ่ง บริการเดลิเวอรี่ผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์แมน แกร็บ ฟู้ดแพนด้าและโรบินฮู้ด เป็นต้น โดยแต่ละร้านจะนำเสนอเมนูที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่าง ร้านอาหารไทยทองหล่อ นำเสนอข้าวกล่องทองหล่อในราคาเริ่มต้น 150 บาท ร้านสึโบฮาจินำเสนอเมนูเบนโตะอาหารญี่ปุ่นในราคาเริ่มต้น 80 บาท
“ธุรกิจร้านอาหารแม้มีคู่แข่งมาก แต่ก็มีอัตราการเติบโตขึ้นทุกปีนี้ อีกทั้งขณะนี้ผู้บริโภคก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติแล้ว อิมแพ็คก็ต้องเพิ่มสีสัน ความแปลกใหม่ให้แก่ศูนย์ฯ ด้วยการให้น้ำหนักกับการพัฒนาร้านอาหารที่อยู่ภายในศูนย์ฯ รองมา คือ การขยายสาขานอกพื้นที่ อยู่ระหว่างการหาพื้นที่ที่เหมาะสมในทำเลต่างๆ ซึ่งการปรับโฉมร้านอาหารใหม่ครั้งนี้ก็สอดรับกับกลยุทธ์การตลาด มุ่งเน้นที่การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า (Customer Experience)ในทุกๆส่วน ตั้งแต่การตกแต่งร้าน เพิ่มสีสัน บรรยากาศ การพัฒนาบริการ การให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาหาร ซึ่งจุดแข็งร้านอาหารเครืออิมแพ็ค คือ ทุกร้านมีเชฟผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารแต่ละประเภทประจำร้าน จึงเชื่อมั่นได้ว่า อาหารทุกจานที่ออกจากครัวได้มาตรฐาน เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ประทับใจ”
ขณะเดียวกันร้านอาหารเครืออิมแพ็ค ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยเมนูอาหารของร้านอาหารในเครือจะเพิ่มสัดส่วนการใช้ผักและผลไม้ออร์แกนิกจากโครงการเพื่อสังคม “อิมแพ็ค ฟาร์ม” ซึ่งทำหน้าที่รับซื้อผัก ผลไม้ จากภาคีเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ทั่วประเทศ มาใช้เป็นวัตถุดิบในการรังสรรค์เมนูต่างๆมากขึ้น ดังนั้นผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการร้านอาหารเครืออิมแพ็ค จึงมั่นใจได้ว่าได้รับประทานอาหารที่ สด สะอาดและปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่า การรุกหนักธุรกิจร้านอาหารครั้งนี้ ทั้งการปรับโฉมร้านอาหารภายในศูนย์ฯ การขยายสาขาใหม่นอกพื้นที่ และการแตกบริการใหม่ของร้านอาหาร จะช่วยเพิ่มสีสันให้แก่ผู้เข้ามาใช้บริการภายในศูนย์ฯ พร้อมกับขยายฐานลูกค้าใหม่ๆควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะทำให้รายได้จากธุรกิจร้านอาหารเติบโตขึ้น ตามแผนที่วางไว้ว่าภายในปี 2569 อิมแพ็คจะมีรายได้จากธุรกิจร้านอาหารเพิ่มเป็น 3,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon