มิติหุ้น – นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือORI เปิดเผยว่า ในช่วง Q1/66 บริษัทคาดว่ายอดขาย เติบโตขึ้น 47% YoY หรือคิดเป็นมูลค่า 1.2 หมื่นล้านบาท สาเหตุจากยอดขายและราคาห้องที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมองว่า ภาพรวมในช่วง Q2/66 ยอดขายพรีเซลจะเติบโตขึ้นดีกว่า Q1/66 หลังผ่านการเลือกตั้งแล้ว จะส่งผลให้ด้านเศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น อีกทั้ง บริษัทและบริษัทในเครือยังคงเดินหน้าเปิดโครงการรวม 60 โครงการ ที่มีมูลค่า 8 หมื่นล้านบาท อีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทวางแผนที่จะทยอยนำบริษัทย่อย 4 บริษัท “Spin-off” เข้าตลาดหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 66 บริษัทจะนำ “บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด” ที่ดำเนินธุรกิจโรงแรม ค้าปลีก และออฟฟิศ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าจะเริ่มไฟลิ่งในช่วง Q2/66 และเริ่มซื้อ-ขายหุ้น ในช่วง Q4/66
รวมถึงในปี 67 จะนำ “บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของพรีโม่ ที่ดำเนินธุรกิจบริหารงานโครงการและบริหารก่อสร้าง เข้าตลาดหลักทรัพย์
ถัดมาในปี 68 บริษัทที่จะนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ คือ “บริษัท แอลฟา อินดัสเทเรียล โซลูชั่น จำกัด” ที่เป็นบริษัทร่วมทุนกับ JWD ดำเนินธุรกิจคลังสินค้า โรงงานเช้า โลจิสติดส์พาร์ค ซึ่งวางเป้าหมายจะสร้างพื้นที่อุตสหกรรมให้เช่า 1 ล้านตารางเมตร
ส่วน ในปี 69 จะเป็น “บริษัท ออริจิ้น เฮลท์แคร์ จำกัด” ที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นบริษัทที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ โดยดำเนินธุรกิจที่เติบตามเมกะเทรนด์ ในด้านการดูแลสุขภาพ และสังคมสูงวัย ให้บริการโรงพยาบาลเฉพาะทาง รวมถึงเป็นศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ และคลินิคความงาม
ดังนั้น บริษัทคาดว่า จะส่งผลให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายที่ Market Cap. รวม จะแตะ 100,000 ล้านบาทได้ ภายใน 5 ปี (65-70) หลังเริ่มทยอยนำบริษัทย่อย เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
