SMEs ไทย รวมตัวสร้างเครือข่ายธุรกิจ เพื่อสร้างธุรกิจเติบโต 10 เท่า

300

SMEs ไทย รวมตัวกันสร้างชุมชนธุรกิจในชื่อ BNI Alpha โดยปักหลักประชุมที่โรงแรมแม่น้ำ รามาดาพลาซ่า ถนนเจริญกรุง ทุกเช้าวันพฤหัสบดี เพื่อมุ่งเน้นการสร้าง Business Community และส่งมอบโอกาสทางธุรกิจผ่านการช่วยเหลือ และแลกเปลี่ยนคอนเนคชั่นซึ่งกันและกันในรูปของ Referral Marketing ที่ช่วยขยายฐานลูกค้า และเข้าถึงลูกค้ารายใหญ่ได้ง่ายขึ้น เปิดรับสมาชิกที่สนใจร่วมก่อตั้งกลุ่มถึงสิ้นเดือน พ.ค. นี้

 

 

 

ด้วยภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ทำให้ธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลางเผชิญปัญหามากมาย ทั้งทางด้านการแข่งขันที่สูงขึ้น และการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เช่น เทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค ตลอดจนการผลักดันธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการขยายฐานลูกค้า การเข้าถึงลูกค้าขนาดใหญ่ และรวมถึงการหาไอเดียธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการของตน SMEs ไทยจึงจำเป็นต้องพึ่งพากันเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ในระยะยาว และเติบโตอย่างแข็งแรงด้วยการรวมตัวกันเพื่อสร้างชุมชนธุรกิจ (Business Community) ที่เน้นการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างสมาชิก การดูแลลูกค้าและแบ่งปันคอนเนคชั่นเพื่อให้ธุรกิจในชุมชนอยู่รอดและเติบโตไปพร้อมกัน

 

คุณเกศรินทร์ พาราทิพย์เจริญชัย วิทยากรการลงทุน อดีตผู้บริหารบริษัทหลักทรัพย์ที่ผันตัวมาช่วยเหลือชุมชนธุรกิจกล่าวว่า “เราเริ่มต้นจากการเข้ามาทำความรู้จักกับระบบ BNI ซึ่งเป็นรูปแบบการทำการตลาดแบบบอกต่อ หรือ Referral Marketing และใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก และเล็งเห็นว่า ยังมีธุรกิจ SMEs อีกจำนวนมากที่ยังต้องการความช่วยเหลือ หรือการรวมตัวเพื่อสนับสนุนธุรกิจของกันและกัน และเริ่มรวบรวมกลุ่มเจ้าของธุรกิจที่อยากเข้ามาศึกษาระบบนี้”

 

BNI ย่อมาจาก Business Network International มีต้นกำเนิดมาจากอเมริกา ซึ่งก่อตั้งโดย ดร.ไอแวน ไมสเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดแบบบอกต่อ และเจ้าของผลงานหนังสือด้านธุรกิจหลายเล่ม ปัจจุบัน BNI มีสาขาใน 77 ประเทศ และมีการรวมกลุ่มทั่วโลกมากกว่า 11,000 กลุ่ม คิดเป็นมูลค่าธุรกิจสะสมกว่า 7.14 แสนล้านบาทในปีที่ผ่านมา โดยสำหรับ BNI ประเทศไทย ก่อตั้งโดยคุณกลกิตติ๋ เถลิงนวชาติ เมื่อ 17 ปีที่แล้ว และปัจจุบันมีกลุ่ม BNI ในประเทศไทยทั้งหมด 76 กลุ่ม สร้างมูลค่าธุรกิจสะสมรวมกว่า 7.4 หมื่นล้านบาท และยังมีการรวมกลุ่มอีกหลายกลุ่มเพื่อรองรับ SMEs ไทยที่เพิ่มจำนวนขึ้น

 

“ระบบ BNI อนุญาตให้ 1 กลุ่มมีสมาชิกได้ไม่จำกัด แต่ต้องมีอาชีพไม่ซ้ำกัน หรือมีกลุ่มลูกค้าไม่ซ้ำกัน ซึ่งก็จะทำให้ไม่เกิดการแข่งขันในกลุ่ม และเน้นการช่วยเหลือกันและกันให้ธุรกิจเติบโตตามเป้าหมายที่เจ้าของธุรกิจตั้งไว้ เราสามารถขยายธุรกิจของเราไปต่างประเทศง่ายขึ้นจากการทำความรู้จักสมาชิกที่อยู่ต่างประเทศ และการช่วยเหลือกันเหล่านี้ เป็นการให้โดยไม่มีการคิดค่าคอมมิชชั่นแต่อย่างใด” คุณเกศรินทร์ กล่าว

 

สำหรับ BNI Alpha เป็นหนึ่งในกลุ่มเจ้าของธุรกิจที่รวมตัวกันในโซนพระราม 3 เจริญกรุง สาทร และละแวกใกล้เคียง โดยเตรียมการเปิดตัวกลุ่มอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่ม BNI อีกกว่า 10 กลุ่มทั่วประเทศ ที่เตรียมเปิดตัวในวันเดียวกัน จึงเป็นโอกาสของเจ้าของธุรกิจ SMEs ที่จำเป็นจะต้องมีกลุ่มรองรับการเติบโตระยะยาว นอกจากนี้ ยังทำให้สามารถรวมตัวกันเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง และกลยุทธ์ทางธุรกิจร่วมกันได้อีกหลากหลาย

 

คุณเกศรินทร์ ย้ำว่า “สำหรับธุรกิจที่ซ้ำกับเพื่อนสมาชิกในกลุ่ม เรายังมีกลุ่มอื่น ๆ รองรับอยู่อีก 6-7 กลุ่มที่กำลังรวมตัวกันอยู่ในช่วงนี้ โดยกระจายตามโซนพื้นที่ต่าง ๆ จึงอยากให้เจ้าของธุรกิจทุกท่านได้ลองมาทำความรู้จักกัน และรู้จักระบบการตลาดอีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถสร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ การันตีได้จากสมาชิกที่อยู่ในระบบมามากกว่า 5 ปี ที่สร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้มากกว่า 10 เท่า ที่จะมาแบ่งปันประสบการณ์ให้กับสมาชิกอยู่เป็นระยะ ๆ ซึ่งหากอาชีพที่ยังว่างถูกเติมจนครบแล้ว เราก็อาจจะต้องรอนานกว่าจะมีการรวมรวมเจ้าของธุรกิจที่จะเปิดกลุ่มใหม่อีกครั้ง”

 

เจ้าของธุรกิจที่สนใจทำความรู้จักกับระบบการตลาดแบบบอกต่อ หรือ ทำความรู้จักกับเพื่อนสมาชิกใน BNI Alpha สามารถสอบถามรายละเอียดการเข้าร่วมประชุมได้ที่ โทร 098 492 8963 หรือ ติดตามได้ที่เพจ BNI Alpha Thailand

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

 

Web : https://www.mitihoon.com/

 

Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon

 

Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770

 

Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon