มิติหุ้น – DOHOME โดย บล.พาย ระบุว่า ฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มคำแนะนำจาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 17.70 บาท คํานวณด้วยวิธี คิดลดเงินสด (DCF) 30 23XPE 24E (จาก 14.70 บาท) กำไรสุทธิไตรมาส 1/23 อยู่ที่ 258 ล้านบาท (-44%YoY) จากขาดทุน 51 ล้านบาท ในไตรมาส 4/22 กําไรที่ลดลงแรง YoY เป็นผลจาก 1) อัตรากำไร หดตัวลงจากกำไร สินค้าเหล็กที่ลดลง 2) การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่ติดลบ 8.9%
และ 3) ต้นทุนที่สูงขึ้นจากการขยายสาขาใหม่ ส่วนที่ปรับดีเป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ดีขึ้นจนกลับมาทํากำไรในไตรมาส 1/23 ได้ โดยคาดว่ากำไรจะปรับดีขึ้น QoQ ในทุกไตรมาสของปี 2023 เพราะมองว่า SSSG จะพลิกเป็นบวกในครึ่งหลังปี 2023
SSSG เดือน เม.ย. ติดลบ 4%-6% แต่หากไม่รวมผลกระทบจากราคา เหล็ก SSSG รับสินค้าอื่นจะบวกหลักหน่วยต้นในเดือน เม.ย. 2023
ฝ่ายวิจัยจึงคาดว่า SSSG ในไตรมาส 2/23 จะปรับดีขึ้นเงิน -5% จาก -8.9% ในไตรมาส 1/23 เพราะผลกระทบที่เบาบางลงจากราคา ขายเหล็กที่ลดลง ยิ่งกว่านั้นยังเชื่อว่า SSSG จะพลิกเป็นบวกที่หลัก หน่วยกลางในไตรมาส 3/23 และแตะหลักหน่วยปลายในไตรมาส 4/23 หนุนจากการขยายสาขาใหม่ 3 แห่งในครึ่งหลังปี 2023 บวกกับ มาตรการกระตุ้นภาครัฐหลังเลือกตั้ง และ ยอดขายที่ฟื้นตัวในกลุ่ม ผู้รับเหมาที่มีส่วนสัมพันธ์กับงบประมาณภาครัฐ ด้วยเหตุนี้เราจึงคาด ว่ากำไรจะฟื้นตัว QoQ ในทุกไตรมาสของปี 2023 และทำยอดสูงได้ ในปี 2024
นอกจากนี้คาดรับรู้เงินสินไหมทดแทนจากเหตุอุทกภัยมูลค่า 60 ล้านบาทในช่วงQ3/23