KLINIQ จับมือพันธมิตร เปิดตัวศูนย์เก็บสเต็มเซลล์ “THE KLINIQUE – Stem Cell Harvesting Center” ต่อยอดผู้นำ Health and Wellness

154

มิติหุ้น – บมจ.เดอะคลีนิกค์ฯ หรือ KLINIQ  ผู้ให้บริการด้านผิวหนังความงาม ศัลยกรรมตกแต่งและการดูแลป้องกันฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวมที่ทันสมัยตามหลักการแพทย์เดินหน้าต่อยอด ธุรกิจผนึกกำลังครั้งสำคัญ “เมดีซ กรุ๊ป” เปิดตัวศูนย์เก็บเซลล์ไขมันเพื่อฝากเก็บสเต็มเซลล์  (THE KLINIQUE – Stem Cell Harvesting Center) มิติใหม่แห่งศาสตร์ชะลอวัยแข็งตอบโจทย์ตลาดเเติบโตทั่วโลก ด้วยสุดยอดเทคโนโลยีเพื่อชีวิตยืนยาว ให้ทุกคนเก็บสเต็มเซลล์ส่วนบุคคลได้ทุกช่วงวัย ชูจุดเด่นเป็นแบรนด์แรก     และแบรนด์เดียวในอาเซียน การันตรีรางวัลจากสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญระดับโลก ย้ำความเป็นผู้นำ Health and Wellness Center ระดับเอเชียแปซิฟิคที่ออกแบบความอ่อนวัยและแข็งแรงได้ในแบบคุณ

นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านผิวหนังความงาม ศัลยกรรมตกแต่งและการดูแลป้องกันฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวมที่ทันสมัยตามหลักการแพทย์ อาทิ การให้บริการด้านการรักษาโรคผิวหนัง ผิวพรรณความงาม ลดน้ำหนัก ดูแลรูปร่าง ศัลยกรรม Wellness และฟื้นฟูสุขภาพ โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านความงามและศัลยกรรมตกแต่ง ซึ่งผ่านการรับรองจากสถาบันที่มีชื่อเสียงทั้งจากประเทศไทย ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศอังกฤษ และมีประสบการณ์ให้บริการตรวจรักษาโรคด้านผิวหนังและศัลยกรรมด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ทันสมัย ภายใต้แบรนด์ “เดอะคลีนิกค์” เปิดเผยถึง ความร่วมมือครั้งสำคัญกับ บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านสถาบันการฝากเก็บ คัดแยก เพาะเลี้ยง และวิจัยสเต็มเซลล์แบบครบวงจร ซึ่งมีรางวัลการันตีคุณภาพมาตรฐานระดับโลก เปิดตัวศูนย์เก็บเซลล์ไขมันเพื่อฝากเก็บสเต็มเซลล์  (THE KLINIQUE – Stem Cell Harvesting Center) ที่มีมาตรฐานสากล ปลอดภัย จากนวัตกรรมซึ่งเป็นเทรนด์ของเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อให้ได้การฝากเก็บ  สเต็มเซลล์ชนิดเนื้อเยื่อมีเซนไคม์ (Mesenchymal Stem cell) ส่วนบุคคล สำหรับผู้ที่พลาดโอกาสการเก็บ  สเต็มเซลล์ในวันแรกเกิด โดยปัจจุบันมูลค่าของตลาดดังกล่าวในระดับโลกกำลังเติบโตและมีมูลค่ามหาศาลจากเทรนด์ดูแลสุขภาพชะลอวัย โดยผู้ที่ต้องการฝากเก็บสเต็มเซลล์ของตัวเองสามารถฝากได้ ตั้งแต่อายุ 10 ปีเป็นต้นไป

“การเปิดศูนย์ THE KLINIQUE – Stem Cell Harvesting Center จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างจากลูกค้ากลุ่มอื่นๆ มองเห็นความสำคัญของการใช้จ่ายไปกับการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับตนเอง รวมทั้งยังมองหาทางเลือกที่ใช้นวัตกรรมใหม่ในการสร้างชีวิตที่ยืนยาว กับกลุ่มที่ต้องการดูอ่อนวัยและมีรูปลักษณ์ที่ดูดีอยู่เสมอ และความร่วมมมือดังกล่าว เป็นการต่อยอดธุรกิจ ด้านความงามและฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวม (Wellness & Regenerative Medicine)  ให้มีศักยภาพและครบวงจรมากขึ้น” นายแพทย์อภิรุจกล่าว

ด้านนายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า  ปัจจุบันผู้คนโลกกำลังประสบปัญหาด้านสุขภาวะ อันเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมมลพิษ จำนวนประชากรสูงอายุที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 เมดีซ กรุ๊ป ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในทั่วโลก และได้ดำเนินธุรกิจของเราอย่างต่อเนื่องมาถึง 13 ปี เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืนด้านสุขภาพให้กับคนทั่วโลกและใช้ชีวิตได้ดีกว่าเดิม ผ่านนวัตกรรม BIO longevity ที่ครบวงจรที่สุด ในปัจจุบันมียอดรวมจำนวนการเก็บสเต็มเซลล์มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน และยังไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก เพราะทุกกระบวนการ ตั้งแต่การฝากเก็บ จนถึงการเพาะเลี้ยงเซลล์ ถูกคิดขึ้นจากงานวิจัยที่ได้รับการรับรองจากสถาบันต่างๆ ในระดับโลก ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพระดับสากลมากมาย อาทิ รางวัลยอดเยี่ยมต่อเนื่องถึง 4 ปีซ้อนจาก Frost & Sullivan ในฐานะธนาคารสเต็มเซลล์ที่ดีที่สุดของประเทศไทย (Thailand’s Stem Cell Banking Company of the Year) รางวัล World Branding Awards โดย World Branding Forum รางวัลระดับอนุภูมิภาค South East Asia Stem Cell Banking Technology Innovation Leadership Award และ 2021 / 2023 Southeast Asia Stem Cell Banking Company of the Year Award I Frost & Sullivan Awards …ความสำเร็จจากระดับประเทศสู่ที่หนึ่งในระดับภูมิภาค

โดยเทคโนโลยีการฝากเก็บสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อไขมัน “สเต็มเซลล์ชนิดเนื้อเยื่อมีเซนไคม์ (Mesenchymal Stem Cell: MSCs) ช่วยให้ เก็บ MSCs” ของตัวเอง ไว้เพื่อตัวเองในอนาคตเป็นหนทางที่ปลอดภัยและไม่ขัดต่อจริยธรรมใดในการดูแลสุขโดยมีกรมธรรม์การจัดเก็บ 60 ปี ซึ่งเป็นการดูแลที่ยาวนานที่สุดในอุตสาหกรรมธุรกิจธนาคารรับฝากเก็บสเต็มเซลล์ นอกจากนั้น  ยังพัฒนานวัตกรรมการสร้างอวัยวะเทียมจากเซลล์ต้นกำเนิด โดยอวัยวะที่ประสบความสำเร็จแล้วคือ “กระจกตา” ปัจจุบัน มีสาขาอยู่ในประเทศต่างๆ ทั่วภูมิภาค อาทิ เวียดนาม เมียนมาร์ สิงคโปร์ กัมพูชา อินโดนีเซีย รวมถึงไต้หวัน โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศไทย

 

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon