มิติหุ้น – นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส1/2566 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2566) ของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 38.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 107.37% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 18.54 ล้านบาท ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 4,499.92 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 35.06% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 3,331.89 ล้านบาท
โดยมีรายได้จากการขายและให้บริการเท่ากับ 4,450.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,165.54 ล้านบาท หรือคิดเป็น 35.48% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและให้บริการเท่ากับ 3,285.14 ล้านบาท ส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 185.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.86 ล้านบาท หรือคิดเป็น 14.81% ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 163.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.22% จากปีก่อนอยู่ที่ 135.20 ล้านบาท
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Commercial ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 23.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ราคาก๊าซ LPG ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีจุดกระจายสินค้าภาคครัวเรือนที่ครอบคลุมถึง 165 แห่งทั่วประเทศ ทำให้สามารถกระจายสินค้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น
“บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะรักษาอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ไตรมาส และเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่ตั้งไว้ เนื่องจากบริษัทฯ มีความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งความต้องการใช้ก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยในแต่ละปีกลุ่มบริษัทจะมี EBITDA เฉลี่ยประมาณ 500-600 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการดำเนินงานและขยายธุรกิจในอนาคต”
สำหรับภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีแรกของปีนี้ เชื่อว่าสามารถขยายตัวอยู่ในทิศทางดี ซึ่งการเติบโต ยังคงมาจากธุรกิจก๊าซ LPG ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้มั่นใจยอดขายปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 800,000 ตัน แบ่งเป็นยอดขายภายในประเทศจำนวน 775,000 ตัน และส่งออก จำนวน 25,000 ตัน ส่วนรายได้รวมคาดว่าเติบโตไม่ต่ำกว่า 17,000 ล้านบาท
ขณะที่การลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ปัจจุบันธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปได้เซ็นสัญญาลูกค้าไปแล้ว 8 เมกะวัตต์ โดยบริษัทฯ ยังคงเป้ากำลังการผลิตรวมทั้งหมดอยู่ที่ 20 เมกะวัตต์ ภายในปี 2566 นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น ธุรกิจพลังงานทดแทนหรือการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะอยู่ใน Trend การเติบโตในอนาคต เพื่อขยายธุรกิจและสร้างผลตอบแทนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon