คัดหุ้นน้ำดี กำไรQ2แกร่ง “น่าสะสม”

1468

 

มิติหุ้น-เข้าสู่ช่วงเทศกาลประกาศผลประกอบการ Q1/66 ของบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีหลาย บจ.ได้ทยอยประกาศผลประกอบการ โดยมีหลาย บจ.ที่แจ้งผลประกอบการดีเกินคาด และหลาย บจ.ที่ต่ำกว่าคาด แต่โดยรวมๆแล้วผลประกอบการ Q1/66 ฟื้นตัวได้ค่อนข้างช้า เพราะเผชิญแรงกดดันจากนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศต่างชะลอการลงทุน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐยังไม่ถูกขับเคลื่อนอย่างเต็มที่ รวมถึงหลายฝ่ายรอดูผลการ “เลือกตั้ง” ว่ารัฐบาลชุดใหม่จะมีเสถียรภาพมาก/น้อยแค่ไหน ดังนั้น “นักวิเคราะห์หลายฝ่ายจึงมองข้ามช็อต และมาโฟกัสที่ผลประกอบการ Q2/66 เพราะต่างเชื่อกันว่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างโดดเด่น”

คัดหุ้นเด่นQ2/66เข้าพอร์ต

โดย “บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)” มองว่าผลประกอบการ บจ.ช่วง Q2/66 จะเห็นการฟื้นตัวโดดเด่นกว่า Q1/66 จาก Sentiment บวกเข้ามาสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวและการบริโภคที่ฟื้นตัวอย่างเห็นการชัด การกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการทราบผลการเลือกตั้ง “ถ้วนเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เห็นการบริโภค และ การลงทุนเข้าสู่ระบบมากขึ้น”

ดังนั้นฝายวิจัยจึงคัดหุ้นเด่นที่น่าลงทุนในช่วง Q2และQ3/66 โดยจะเน้นหุ้น “กลุ่มบริการ” เป็นหลัก

“กลุ่ม ICT”   เลือก  ADVANC เป้าหมาย 240 บาท  ผลงาน Q2/66 คาดกำไรหลักจะเร่งตัวขึ้น เนื่องจาก ARPU ของธุรกิจมือถือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ค่าไฟฟ้าที่ลดลง และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น (ซึ่งคิดเป็น 30% ของopex ด้านโครงข่ายและ19% ของกำไรหลักในปี65) ARPU ที่ฟื้นตัวน่าจะได้แรงหนุนจากการแข่งขันที่ผ่อนคลายลงและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ดีขึ้น

“กลุ่มค้าปลีก” เพราะการบริโภคเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้ง และยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ เลือก CPALL เป้าหมาย 79 บาท ผลงาน Q2/66 โมเมนตัมยอดขายเติบโตโดดเด่นจากการท่องเที่ยว โดยปี 66 ปรับเพิ่มกำไรเป็น32% เป็น17,536 ล้านบาท เนื่องจากการเติบโตดีขึ้นของทั้ง3 กลุ่มธุรกิจคือร้านเซเว่นฯแม็คโครและโลตัส โดยได้ผลบวกจากการบริโภคฟื้นตัวการเลือกตั้งและนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ด้าน COM7  เป้าหมาย 39 บาท ผลงาน Q2/66 จะเติบโตแข็งแกร่ง โดยปี 66 คาดรายได้เติบโต 19%โดยได้แรงหนุนหลักจากยอดขายสมาร์ทโฟน (เติบโต +25% YoY สัดส่วน 62% ของรายได้ปี 66) เราประเมินส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนของ COM7 จะเพิ่มขึ้นเป็น 25% ในปี 66 จาก 20% ในปี 65 และ 14% ในปี 64 ซึ่งส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นในปี 66 น่าจะได้แรงหนุนจาก SSSG ที่โตแกร่ง (8-10%) และการขยายสาขา ทั้งนี้ ในปี 66 นี้ บริษัทมีแผนที่จะเปิดร้านบานาน่า 120 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่นอกห้างสรรพสินค้า

“กลุ่มเครื่องดื่ม” เลือก SAPPE เป้าหมาย 66.10 บาท  ผลงาน Q2/66 คาดจะเติบโตต่อเนื่อง จากการทำการตลาดหนุนยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 66ขึ้น 8.3%และ 7.5%ในปี 67 จาก 1.เพิ่มประมาณการรายได้ 6.1-6.3% (เพื่อสะท้อนเป้าการเติบโต 25%ในปี 66) และ 2. เพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น 1.3-1.6 ppt เพื่อสะท้อนต้นทุนวัตถุดิบบรรจุภัณฑ์ (เม็ดพลาสติก PET) ที่ลดลง ซึ่งลดลงประมาณ 30%ในปีนี้ โดยประเมินกำไรหลักปี 66 จะเพิ่มขึ้น 25%แตะระดับ 831 ล้านบาท และเพิ่มสู่ระดับ 1.1พันล้านบาทในปี 68 ซึ่งเป็นระดับกำไรที่มากกว่าปี 64 ที่ทำได้ 421ล้านบาท ถึง 2 เท่า

“กลุ่มท่องเที่ยว” เลือก SPA เป้าหมาย 15 บาท ผลงาน Q2/66 จะเติบโตและเติบโตในทุกๆไตรมาส เพราะได้รับอานิสงส์นักท่องเที่ยวเข้าไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะนักลงเที่ยวชาวจีน

 

ขณะที่ “บลกสิกรไทย”  กล่าวว่า หุ้นน่าลงทุนช่วง Q2/66  

“กลุ่มโรงไฟฟ้า” เลือก BGRIM เป้าหมาย 64.50 บาท และ GPSC เป้าหมาย 80 บาท

“กลุ่มโรงพยาบาล” เลือก BDMS เป้าหมาย 33.90 บาท ,BCH ราคาเป้าหมาย 23.40 บาท

“กลุ่มเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยว” เลือก  SNNP  เป้าหมาย 30.30 บาท  RBF เป้าหมาย 30.30 บาท

“ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย)” เผยว่า การลงทุนในช่วง Q2/66 น่าจะดีขึ้นคาดมีหลายธุรกิจที่จะฟื้นตัวโดดเด่น อาทิ  กลุ่มค้าปลีก, กลุ่มพลังงาน โดย “กลุ่มค้าปลีก” เลือก CPALL, MAKRO, BJC และกลุ่มการเปิดเมือง เปิดประเทศ ที่ยัง Laggard อยู่ แนะนำ SPA, MAJOR, PTG  ส่วน “กลุ่มโรงไฟฟ้า” เลือก GULF, BGRIM, GUNKUL

 

ด้าน “บล. ฟินันเซีย ไซรัส” เผยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (8-12 พ.ค.66) ดัชนี SET ปรับตัวขึ้นได้ในช่วง 5 วันที่ผ่านมาราว 4% จากจุดต่ำสุดของรอบสะท้อนความคาดหวังเชิงบวกต่อปัจจัยในประเทศ ทั้งการประกาศกำไร Q1/66  ของบจ.และ Election Rally ไปพอสมควรและใกล้เคียงสถิติในอดีต

ขณะที่ภาพทางเทคนิคยังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้าน 1,570-1,575 จุด ในภาพรายชั่วโมงได้ ทำให้ยืนยันภาพการพักตัวในช่วงสั้น โดยรอจับตาผลการเลือกตั้งวันพรุ่งนี้ (14 พ.ค.66) และ ตัวเลข GDP  Q1/66 วันจันทร์ (15 พ.ค.66)  ฝ่ายวิจัยจึงเลือกหุ้นที่คาดมีผลประกอบการ Q2/66 แข็งแกร่งต่อเนื่อง  เน้นหุ้น BA, BDMS, CPALL, ICHI, TOA

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon