มิติหุ้น – นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า บริษัทฯยอมรับปัญหา SINGER- SGC ทำผลประกอบการกลุ่ม JMART งวด Q1/66 พลิกเป็นขาดทุน 294.7 ลบ. จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 325.1 ลบ. ซึ่งมาจากการรับรู้ส่วนแบ่ง 25.2% มูลค่า 218 ลบ. ของ บมจ.ซิงเกอร์ ประเทศไทย ที่ขาดทุนสุทธิ 843 ลบ. เป็นผลมาจากรายได้ยอดขายลดลง 492 ลบ.หรือ 70.8%
รวมถึง บริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ขาดทุน 368 ลบ. โดยเป็นผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจํานวน 781 ลบ.เพิ่มขึ้น 1,852% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 40 ลบ. โดยมีสาเหตุหลักมาจากลูกหนี้ที่เข้าโครงการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เริ่มทยอยสิ้นสุดการได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งสัดส่วนต้นทุนทางการเงินเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อรถทําเงินมากกว่าสินเชื่อเช่าซื้อ
อย่างไรก็ตาม SINGER มีแผนนำเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าไปสู่โปรเจ็กต์ต่างๆ ของ JAS ASSET และโครงการบ้านมือสองของ J.M.T.พร้อมนำสินค้า และ IT มาจำหน่ายใน JMART Mobie และยังคงตั้งเป้าขยาย SINGER แฟรนไชส์ ให้ถึง 2,000 สาขา จากเดิมที่มี 300 สาขา ภายในสิ้นปีนี้ ในขณะที่ SGC มุ่งให้ความสำคัญในการอนุมัติสินเชื่ออย่างรัดกุม เพื่อควบคุมคุณภาพหนี้ ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง จะสามารถทำให้ NPLs เริ่มชะลอลงใน Q3/66 เป็นต้นไป
อีกทั้งจากแผนการปรับโครงสร้างการบริหาร การลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ล้างสต๊อกสินค้า 50% ลดจำนวนพนักงานลง 20% เหลือ 200 คน จากเดิม 500 คนในปีนี้ จะส่งผลให้บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถกลับมามีผลประกอบการเป็นบวกได้ในครึ่งปีหลังได้อย่างแน่นอน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon