มิติหุ้น – คุณชนัตถ์ สรไกรกิติกูล ประธานกรรมการการเงินและบริหารความเสี่ยง บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ Pranda Group เปิดเผยว่า จากที่ไตรมาส1/2023 บริษัทฯมีรายได้จากการขายในกลุ่มธุรกิจการผลิต 469 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 9% เป็นผลจากคำสั่งซื้อของตลาดหลักชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส4/20222 ที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย และสถานการณ์สงครามรัสเซียยูเครน แต่อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังของปี 2023 นี้ แนวโน้มธุรกิจลักชัวรี่จะกลับมาเติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะในตลาดยุโรป ที่เริ่มเห็นสัญญาณที่ดี จากคำสั่งซื้อที่กลับมาปกติ
จากสถานการณ์ดังกล่าว Pranda Group ยังคงเดินตามแผนกลยุทธ์ด้านการผลิตที่วางไว้อย่างต่อเนื่อง มุ่งโฟกัสที่ความแข็งแกร่งของธุรกิจ ในการเป็นผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีที่มีความเชี่ยวชาญการรังสรรค์งานฝีมือชั้นสูงที่มีความประณีต ตอบโจทย์ด้านคุณภาพ และปริมาณในเชิงพาณิชย์ ซึ่งตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้รับผลตอบรับที่ดีจากแผนกลยุทธ์ดังกล่าว ที่มีฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจการผลิตเพิ่มขึ้น สำหรับปี 2023 นี้ บริษัทฯ ได้พัฒนาศักยภาพในการดำเนินงาน เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมที่ยังมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ จากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค บริษัทฯจึงได้ขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่ม Accessible Luxury Jewelry Brand หรือกลุ่มแบรนด์เครื่องประดับหรูที่มีราคาที่สูงขึ้น เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสเติบโตสูง และได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจน้อยมาก ซึ่งในปี 2023 นี้ กลุ่มลูกค้า Accessible Luxury Jewelry Brand มีทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง สูงกว่าเป้าที่วางไว้ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา
ผลตอบรับที่ดีจากแผนกลยุทธ์ดังกล่าว ที่มีฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจการผลิตเพิ่มขึ้น สำหรับปี 2023 นี้ บริษัทฯ ได้พัฒนาศักยภาพในการดำเนินงาน เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมที่ยังมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ จากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค บริษัทฯจึงได้ขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่ม Accessible Luxury Jewelry Brand หรือกลุ่มแบรนด์เครื่องประดับหรูที่มีราคาที่สูงขึ้น เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีโอกาสเติบโตสูง และได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจน้อยมาก ซึ่งในปี 2023 นี้ กลุ่มลูกค้า Accessible Luxury Jewelry Brand มีทิศทางการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง สูงกว่าเป้าที่วางไว้ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา
ด้วยกลยุทธ์ที่ตั้งไว้ มั่นใจว่ายอดขายในกลุ่มธุรกิจการผลิตช่วงครึ่งปีหลัง จะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีจากกลุ่มลูกค้าที่มีการวางแผนร่วมกันกับบริษัทฯ ทั้งในการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และการวางแผนคำสั่งซื้อล่วงหน้า รวมถึงกลุ่มลูกค้าเดิมเริ่มทยอยมีคำสั่งซื้อซ้ำกลับเข้ามา ถือเป็นสัญญาณที่ดี
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon