ตั้งแต่ต้นปี 2566 ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญกับปัจจัยลบหลากหลายประเด็น ทั้งปัจจัยในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งประเด็นฮอตฮิตก็คงหนีไม่พ้น “การเลือกตั้ง” ที่ฉุดดัชนีลดฮวบเกือบ 20 จุดทันที (ดัชนีปิดที่ระดับ 1,541.38 จุด ณ สิ้นวันที่ 15 พ.ค. 2566) หลัง ‘พรรคก้าวไกล’ ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อีกทั้งการเจรจาข้อตกลงที่ยังไม่เรียบร้อย อาจนำไปสู่สุญญากาศของการจัดตั้งรัฐบาล และทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจในการลงทุน
ทางสำนักข่าว “มิติหุ้น” จึงได้เดินทางไปพบกับกูรูวีไอชื่อดังระดับเซียนอย่าง “บอย ท่าพระจันทร์” เพื่อพูดคุยถึงแนวทางการลงทุนในสภาวะที่ตลาดหุ้นไทยผันผวน พร้อมยกประเด็นทางการเมืองมาพูดคุย โดยมีคำถามและคำตอบดังนี้
ถาม : ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญปัจจัยลบหลายด้าน มีวิธีการลงทุนอย่างไรในสภาวะที่ตลาดหุ้นผันผวนแบบนี้ ?
ตอบ : ในหนึ่งวัน ผมจะขายหุ้นออก 3-5% ในพอร์ต ส่วนหุ้นที่ถือไว้จะอยู่ที่ 90% โดยหุ้นที่เลือกนั้น มาจากความเชื่อมั่นว่าบริษัทที่เราเลือกจะสามารถทำผลประกอบการแข็งแกร่ง แม้ต้องเผชิญสภาวะตลาดหุ้นที่ผันผวนรุนแรง ซึ่งปัจจุบันผมถือหุ้นอยู่ในพอร์ตประมาณ 3-4 ตัว
ถาม : กระจายความเสี่ยงการลงทุนอย่างไร ได้ลงทุนในกองทุนหรือตราสารหนี้หรือไม่?
ตอบ : ไม่ได้ลงทุนในกองทุน หรือตราสารหนี้ แต่เลือกลงทุนในหุ้นรายตัวของบริษัท รวมถึงลงทุนอื่นๆ เช่น พระเครื่อง-พระบูชา ของเก่าต่างๆ กระเพาะปลา คริปโตและการรับจำนำ
ถาม : ใช่ปัจจัยอะไรในการเลือกหุ้นเข้ามาในพอร์ต?
ตอบ : เราต้องดูปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก หุ้นตัวไหนจะถือยาวก็ดูเทคนิคประกอบด้วย เช่น MACD Month หรือ Week Day ที่อยู่ใน Gap ขาขึ้น จะลงทุนหุ้นตัวนั้นในจำนวนหลายร้อยล้าน – พันล้าน หากหุ้นตัวไหนอยู่ในช่วงขาลง และหุ้นตัวนั้นเป็นหุ้นที่ดี แต่คนยังไม่เข้าใจธุรกิจของบริษัท เราจะใช้วิธีค่อยๆแหย่ ลงทุน 5-10% ของพอร์ต หากมั่นใจในหุ้นตัวนั้น ก็จะเพิ่มเป็น 70%-80% ของพอร์ต
ถาม : เน้นการลงทุนหุ้นในเซกเมนท์ไหนเป็นหลัก หุ้นขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่?
ตอบ : ผมจะมองเป็นภาพรวมของหุ้นแต่ละกลุ่มนั้นๆ ว่าหุ้นตัวไหนเป็นเบอร์ 1 ผมถึงจะเลือก ซึ่งส่วนใหญ่ดูเป็นหุ้นขนาดกลาง
ถาม : แบ่งการลงทุน จัดสรรหุ้นในพอร์ตและ Cash flow อย่างไร เพื่อรองรับวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต?
ตอบ : ผมตั้งสำรองเงินจำนวนหนึ่งเพื่อรองรับวิกฤตไว้อยู่แล้ว ไม่เหมือนครั้งแรกที่ประสบการณ์ยังมีไม่มาก โดยเงินสดผมมีเก็บไว้ 50% ของพอร์ต และลงทุน 100% ของพอร์ต สมมติง่ายๆว่า เรามีเงิน 150 บาท ลงทุน 100 บาท เก็บเป็นเงินสดไว้ 50 บาท ส่วนการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ รวม 300% แบ่งเป็นสัดส่วนการลงทุน พระเครื่อง 100% กระเพาะปลา 100% คริปโต 50% รับจำนำอีก 50%
ถาม : มีกลยุทธิ์การลงทุนหลังเลือกตั้งอย่างไรบ้าง?
ตอบ : โดยปกติดัชนีตลาดหุ้นไทยจะขึ้นหลังเลือกตั้ง แต่ครั้งนี้กลับลดลง และมีความผันผวนมาก ทำให้ต้องปรับพอร์ตไปหลายครั้งเลย แต่ผมก็ยังเชื่อมั่นในหุ้นที่ถืออยู่ ยกเว้นหุ้นตัวไหนที่ดูแล้วมีสภาพคล่องน้อย รับผลกระทบกับนโยบายใหม่ของนายกที่จะเข้ามา ก็ต้องขายทิ้งไปก่อนเพื่อตั้งหลักดูเหตุการณ์ หรือหุ้นตัวไหนที่มีความเสี่ยงเอาออกไปก่อนเลย ถือแค่หุ้นที่เราเชื่อว่าจะไม่กระทบนโยบายใหม่และกิจการของบริษัทจะโตต่อ
ถาม : มองทิศทางตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างไร หลังพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล?
ตอบ : พูดการเมืองจะดีหรอ เอาเป็นว่าถ้าเข้ามาแล้วส่งผลกระทบตลาดทุนจะทำให้ตลาดหุ้นไทยเล็กลง การซื้อขายจะหดตัว รวมถึงหากมีภาษีหุ้นเข้ามาจริงจัง จะทำให้ตลาดหุ้นไทยไม่น่าสนใจในเอเชีย ส่วนตัวผมมองว่าจะกระทบในช่วงแรกและจะกลับมาฟื้นตัว เพียงแต่การกระทบช่วงแรกนั้นอาจจะเป็นการไล่แขกออกหมดเลยก็ได้
ทิศทางการลงทุนหลังเลือกตั้ง
ด้าน ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นอะไรที่ทุกคนไม่คาดคิด ซึ่งพรรคก้าวไกลได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ต้องยอมรับว่าในแง่ของนโยบายนั้นสร้างความไม่แน่นอน อย่างหุ้นที่โดนเกี่ยวข้องกับไฟฟ้า พลังงาน แก๊ส ฯ จึงทำให้เกิดความผันผวน แต่หากทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอย ผ่านการจัดตั้งรัฐบาล นักท่องเที่ยวกลับมา และเศรษฐกิจโลกไม่ได้ชะลอตัวมาก จะทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจครึ่งปีหลังจะเป็นภาพที่ดีขึ้น
ทั้งนี้แนะนำการลงทุนในสภาวะตลาดหุ้นผันผวน คือควรเลือกหุ้นที่มีลักษณะ defensive เนื่องจากหากเศรษฐกิจชะลอตัว จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อย่าไปเน้นพวกหุ้น growth (เติบโตสูง) ซึ่งเสี่ยงรับผลกระทบหากเศรษฐกิจชะลอตัว
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoo
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon