ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังอุปสงค์น้ำมันของจีนมีแนวโน้มชะลอตัว
ขณะที่อุปทานน้ำมันของรัสเซียได้รับผลกระทบ
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
– ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของจีน เดือน พ.ค. ออกมาต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ตลาดกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ขณะที่ตลาดกังวลต่ออุปทานน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น หลังปริมาณน้ำมันดิบของรัสเซียซึ่งส่งออกไปยังจีนและอินเดีย ทำจุดสูงสุดใหม่ในเดือน พ.ค. 66
– Goldman Sachs ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เดือน ธ.ค. 66 มาอยู่ที่ระดับ 86 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ลดลงจากเดิมที่ 95 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เช่นเดียวกับราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสที่ปรับลดจากระดับ 89 สู่ 81 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากปัจจัยความกังวลต่ออุปทานน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นจากรัสเซีย อิหร่านและเวเนซุเอลา
+ ตลาดจับตาการเปิดเผยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ (CPI) เดือน พ.ค. ซึ่งจะประกาศในค่ำคืนนี้ โดยตลาดคาดอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มย่อตัวลงจากครั้งก่อนหน้าที่ระดับ 4.9% มาอยู่ที่ 4.1% สอดคล้องกับการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ซึ่งตลาดให้น้ำหนักกว่า 80 % ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00 – 5.25%
ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากการนำเข้าของเวียดนาม ญี่ปุ่น และอินเดีย ซึ่งมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกของจีนซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 0.9 – 1 ล้านตัน ในเดือน มิ.ย.
ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดตามราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดความต้องการใช้น้ำมันดีเซลของจีนในไตรมาส 3 มีแนวโน้มปรับลดลง หลังดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต เดือน เม.ย. และ พ.ค. ต่ำกว่า 50 แสดงถึงเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon