มิติหุ้น – สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ในเครือบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป จับมือ ไทยไฟท์ ประกาศความยิ่งใหญ่ในการก้าวสู่ปีที่ 4 พร้อมย้ำชัดถึงความเป็น King of Fighting Sports อันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยการเปิดตัวรายการแข่งขันมวยไทยคาดเชือก “THAI FIGHT LEAGUE” ภายใต้คอนเซปต์ การยกระดับกีฬาต่อสู้ประจำประเทศไทยสู่การแข่งขันระดับสากล ด้วยการต่อสู้จากนักชกตัวจริง เพื่อค้นหาสายเลือดนักสู้รุ่นใหม่มาประดับวงการ THAI FIGHT ภายใต้การรับรองของ “Thai Fight International Boxing Association” (TFIBA) ทั้งยังเป็นการเสริมทัพคอนเทนต์ของช่อง 8 ในการสร้างความมันส์แบบทะลุจอกับตำนานมวยรอบที่ยิ่งใหญ่และยาวนานที่สุดของไทย ตั้งเป้าสร้างเรตติ้งให้เป็นรายการมวยอันดับ 1 ในทุกๆ วันอาทิตย์ ซึ่งส่งผลต่อเรตติ้งของช่องเติบโตขึ้นที่เป้าหมาย 35%
คุณนงลักษณ์ งามโรจน์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 กล่าวว่า “สำหรับความสำเร็จที่ไม่หยุดนิ่งกับเวทีมวย “THAI FIGHT” ที่ยังคงครองแชมป์เรตติ้งรายการมวยอันดับ 1หลังจากเปิดศึกถ่ายทอดสดแรกประจำปี 2566 ในเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเสียงตอบรับความนิยมจากฐานผู้ชมเป็นอันดับ 1 ของประเทศ โดยมีผู้เข้าชมเฉลี่ย 1.5 ล้านคน และฐานผู้ชมเฉลี่ยกว่า 3.5 ล้านคน คิดเป็นเรตติ้ง 2.5% และสามารถครองใจกลุ่มผู้ชมหลักทุกเพศ อายุ 35 ปีขึ้นไป ด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 5.0% และเป็นรายการมวยที่ทำเรตติ้งดีที่สุด จึงเป็นที่มาของการต่อยอด เดินหน้าร่วมมือกันอัพเกรดเพิ่มคอนเทนต์ความสนุกแบบโนลิมิตกับฐานแฟนคลับรายการมวยของช่อง 8 ภายใต้การเปิดตัวรายการ “THAI FIGHT LEAGUE” ขึ้นเป็นปีแรก และเริ่มเปิดศึกชิงแชมป์การแข่งขันนักมวยไทยในรูปแบบมวยคาดเชือกกันมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2566 ภายใต้ คอนเซปต์ การยกระดับกีฬาต่อสู้ประจำประเทศไทยสู่การแข่งขันระดับสากล ด้วยการต่อสู้จากนักชกตัวจริง มาชิงไหวชิงพริบเพื่อค้นหาสายเลือดนักสู้รุ่นใหม่มาประดับวงการ THAI FIGHT ภายใต้การรับรองของ “Thai Fight International Boxing Association” (TFIBA) หรือการกำหนดการแข่งขันชก 3 ยก หากเสมอกัน จะตัดสินหาผู้ชนะในยกที่ 4 ตลอดทั้งปี โดยคาดหวังว่าจะสร้างเรตติ้งให้เป็นรายการมวยอันดับ 1 ในทุกๆ วันอาทิตย์ ซึ่งส่งผลต่อเรตติ้งของช่องเติบโตขึ้นที่เป้าหมาย 35% และถึงแม้ว่าจะมีการชกมวย Thai Fight ถึง 2 รายการ แต่ในแง่ของความถี่ในการออกอากาศจะแตกต่างกัน THAI FIGHT จะมีการถ่ายทอดเพียง 8 แมตช์ต่อปี ในขณะที่ THAI FIGHT LEAGUE จะถ่ายทอดสดในทุกๆ วันอาทิตย์ เวลา 18.00 น. – 20.00 น. เพื่อเติมเต็มความสนุกให้คนดูมวยไทยทางช่อง 8 แบบต่อเนื่อง”
คุณนพรัตน์ พุทธรัตนมณี รองประธานจัดการแข่งขัน THAI FIGHT กล่าวเสริมว่า “ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ THAI FIGHT เข้ามาถ่ายทอดสด ซึ่งทางช่อง 8 เองมีรายการถ่ายทอดสดมวยไทยหลายรายการ มีกลุ่มผู้ชมมวยเป็นพื้นฐานที่แข็งแรงอยู่แล้ว เมื่อไทยไฟท์เข้ามาก็ยิ่งเสริมกัน และขยายกลุ่มผู้ชมมวยไทยให้โตขึ้น ณ วันนี้เราเป็นรายการมวยที่มีเรตติ้งสูงที่สุด คือตัวชี้วัดที่ชัดเจนถึงความสำเร็จที่ไทยไฟท์ร่วมกับช่อง 8 ในการก้าวสู่ปีที่ 4 พร้อมวิสัยทัศน์ “เราจะบอกความเป็นไทยไปทั่วโลก” ไทยไฟท์มีความแตกต่างคือ เรานำเสนอเรื่องราววัฒนธรรมไทยสู่สากลโดยการใช้กีฬาเชิงวัฒนธรรมด้านมวยไทย ที่เป็นความภูมิใจของคนไทยให้ทั่วโลกได้ชมผ่านไทยไฟท์ ดังนั้น การร่วมมือกันของไทยไฟท์กับช่อง 8 เป็นการขยายฐานผู้ชมทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ผ่านการถ่ายทอดระบบสองภาษา เป็นต้น โดยตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ไทยไฟท์เริ่มจัดรายการมวยไทย เราสร้าง Super Stars ทั้งนักมวยไทย และนักมวยต่างชาติ เป็นจุดกำเนิดมวยไทย 3 ยก คนไทยชกกับต่างชาติ ทำให้เกิดรายการมวย 3 ยกเกิดขึ้นมากมายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน จนทำให้นักมวยไทยไม่เพียงพอกับรายการแข่งขัน ไทยไฟท์จึงเห็นโอกาสในการสร้างนักมวย ในแนวทางไทยไฟท์ ทั้งชาวไทยและนักชกต่างชาติ เพื่อสร้างนักมวยไว้รองรับการเติบโตของการแข่งขันไทยไฟท์ในระดับนานาชาติจึงเกิด THAI FIGHT LEAGUE ควบคู่ไปกับ THAI FIGHT ในปีนี้”
“นอกจากนี้ เราได้ขยายความสำเร็จจากทีวีเรตติ้งเข้าสู่ช่องทางออนไลน์ และออนกราวด์ เพราะมีโอกาสทางธุรกิจอีกมากมาย เช่น การสร้างรายได้จากออนไลน์, สปอนเซอร์, การบริหารลิขสิทธิ์ของคอนเทนต์ และที่สำคัญการต่อยอดทำออนกราวด์ เราวางแผนไว้หลายมิติ โดยเฉพาะการเปิดช่องทางการเข้าถึงคนดูโดยตรงในพื้นที่ต่างจังหวัดที่เป็นเป้าหมายได้ทั้งงบโฆษณา ได้ทั้งการสร้างแบรนด์ของมวยช่อง 8 และยังได้ทำ CRM (Customer Relationship Management) กับคนดูในพื้นที่จริง และในปีนี้ยังได้ผลักดันละครเรื่อง “มวยสะดิ้ง หมัดซิ่งสายฟ้า” โดยดึง 4 นักมวยไทยขวัญใจคนไทย สามารถ, เขาทราย, เขาค้อ และสมจิตร ร่วมแสดง เพื่อให้เกิด Soft Power กีฬามวยไทย โดยทั้งหมดจะสามารถเป็นกระบอกเสียงผลักดันให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และเพื่อนบ้านได้เรียนรู้วัฒนธรรมและต้นแบบ พร้อมต้นกำเนิดกีฬามวยไทยอย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย” คุณนงลักษณ์ กล่าวปิดท้าย
หลังจากการถ่ายทอดสด “THAI FIGHT LEAGUE” เมื่อเดือนพฤษภาคมจนถึงวันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้เสียงตอบรับความนิยมเป็นอันดับ 1 ของประเทศ โดยเข้าถึงกลุ่มผู้เข้าชมสูงสุดที่ 3.7 ล้านคน และมีเรตติ้งเฉลี่ยผู้ชมที่ 1.2 ล้านคน คิดเป็นเรตติ้ง 2.0% และสามารถครองใจกลุ่มผู้ชมหลักเพศชาย อายุ 35 ปีขึ้นไป ด้วยเรตติ้งสูงสุดถึง 4.34%
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon