ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังความต้องการใช้น้ำมันยังเติบโตต่อเนื่อง
ท่ามกลางอุปทานที่เพิ่มขึ้นจำกัด
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังได้รับแรงหนุนจากความต้องการใช้น้ำมันของจีนที่ยังเติบโตต่อเนื่อง สะท้อนจากปริมาณการกลั่นและการนำเข้าน้ำมันดิบในเดือน พ.ค. 66 ที่เพิ่มขึ้น 15.4% และ 12.2% จากปีก่อนหน้า ตามลำดับ ขณะที่อุปทานมีแนวโน้มลดลงจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและประเทศพันธมิตร
+ บริษัทฯ น้ำมันในสหรัฐฯ ปรับลดการขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติลงเป็นสัปดาห์ที่ 7 หลังราคาพลังงานปรับลดลง โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะปรับลดลงกว่า 8 แท่นสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 16 มิ.ย.
– เศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันต่อเนื่อง จากการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี โดยในสัปดาห์นี้ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) คาดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน
– ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าจะถูกสหรัฐ คว่ำบาตร โดยการส่งออกในเดือน พ.ค. 66 อยู่ที่ระดับ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งนับเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 ปี
ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่เพิ่มขึ้น รวมถึง ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากการส่งออกของจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ตึงตัวในระยะสั้น หลังโรงกลั่นขนาดใหญ่ในอินเดียหยุดการส่งออก เนื่องจากเกิดพายุไซโคลนขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon