มิติหุ้น – บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด (“บลจ. ยูโอบี”) ร่วมมือกับทาง KBank Private Banking เปิดตัว กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไพรเวท อิควิตี้ ฟันด์ 1 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (UPREQ1-UI) เพิ่มโอกาสต่อยอดความมั่งคั่งด้วยการลงทุนในหน่วย Private Equity ผ่านกองทุนหลัก ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและบริหารอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ HOMA เปิดเสนอขายครั้งเดียวในช่วง IPO วันที่ 21-26 มิถุนายน 2566
นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการอาวุโส สายพัฒนาธุรกิจ กล่าวว่า “ภาพรวมการลงทุนทั่วโลกยังคงเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อในระดับสูง ส่งผลให้ดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูงเช่นกัน จากปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลให้ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นและตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงในไทย ยังคงมีความผันผวนสูงอยู่ อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ทางเลือกที่มีความสัมพันธ์คนละทิศทางกับสินทรัพย์การลงทุนอื่น ๆ และเป็นสินทรัพย์ที่สามารถเติบโตได้ในภาวะที่ดอกเบี้ยและเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในหน่วย Private Equity เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในช่วงเวลานี้ ซึ่งมีจุดเด่นที่ราคาจะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานที่แท้จริง ไม่ได้เคลื่อนไหวตามผลกระทบของข่าวสาร”
ดังนั้น บลจ. ยูโอบี จึงได้ร่วมมือกับทาง KBank Private Banking และ HOMA นำเสนอโอกาสการลงทุนในหน่วย Private Equity ซึ่งลงทุนในบริษัทนอกตลาด (Private Asset) ที่มีผู้เชียวชาญการบริหารอสังหาริมทรัพย์ภายใต้แบรนด์ HOMA ที่เน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภท Workforce Housing Assets โดยเฉพาะในเอเชียรวมทั้งไทย ผ่าน กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ไพรเวท อิควิตี้ ฟันด์ 1 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (UPREQ1-UI) ความเสี่ยงระดับ 8+ โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหน่วย Private Equity ต่างประเทศ โดยไม่จำกัดอัตราส่วน ซึ่งสามารถมีสัดส่วนการลงทุนในหน่วย Private Equity สูงสุดร้อยละ 100 ของ NAV ผ่านการลงทุนใน ACRE Asia Workforce Housing I, L.P. (“กองทุนหลัก”) ที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของหมู่เกาะเคย์แมน และอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ ARCE Noon Pte., Ltd (เกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง 2 บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือ Asia Capital Real Estate (ACRE) และ NOON Capital (NOON) ได้ร่วมกันพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ชื่อ HOMA ที่ให้บริการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยให้เช่าในรูปแบบ Multi-family ที่มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลาง (Co-Living) เน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวคิดของความยั่งยืน (Sustainability) ในทำเลที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย โดยกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์ที่จะสร้างความเติบโตให้กับเงินลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาวผ่านการลงทุนในบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (Private Equity Investments)
กองทุนหลักมีกลยุทธ์การลงทุนที่เน้นการลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยให้เช่า (Rental Housing) ซึ่งมีลักษณะเพื่อใช้อยู่อาศัยในลักษณะครอบครัวควบคู่กับการใช้เพื่อทำงาน (Workforce Housing Assets) ในทำเลที่อยู่ในศูนย์กลางเมืองเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย และในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ ภูเก็ต ศรีราชา กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว อสังหาริมทรัพย์ประเภทนี้เริ่มได้รับความนิยมใน สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น และเป็นโอกาสสำหรับการทำการตลาดในเอเชียที่ยังไม่มีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รูปแบบดังกล่าวมากนัก รวมถึงเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีด้วยเช่นกัน อสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบ Workforce Housing Assets ในไทยมีความน่าสนใจมากขึ้น แม้ว่าการแพร่ระบาด COVID-19 จะคลี่คลายไปแล้ว จากผลสำรวจคนวัยทำงานในประเทศที่สำคัญทั่วโลก เช่น สหรัฐ สหราชอาณาจักร จีน พบว่าพิจารณาถึงการทำงานแบบ Remote Work กว่า 1/3 โดยประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของชาวต่างชาติ การขยายตัวของสังคมเมืองทำให้ความต้องการของที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยสนับสนุนให้อสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบดังกล่าวมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น
ปัจจุบันกองทุนหลักจะเข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หลัก 3 แห่ง ภายใต้แบรนด์ HOMA ดังนี้ 1. HOMA PHUKET TOWN เปิดโครงการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต ใกล้โรงพยาบาลใหญ่ มหาวิทยาลัย สถานที่ค้าปลีก โดยกลุ่มลูกค้าประกอบไปด้วยบุคลากรทางการแพทย์ ทางการศึกษา รวมถึงกลุ่มชาวต่างชาติ และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เข้าพัก 2. HOMA SI RACHA เปิดโครงการในปี 2022 ทำเลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นแหล่งสร้างงานที่มีศักยภาพสูง เน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติที่มาทำงานในไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม 3. HOMA CHERNGTALAY ทำเลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ Laguna Phuket ที่เป็นแหล่งชุมชนชาวต่างชาติ เน้นกลุ่มลูกค้าที่เป็น Expat ที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติรวมถึงลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยว และมีแผนการลงทุนโครงการอื่น ๆ ที่อยู่ในแผนงานของ HOMA โดยในทุก ๆ โครงการจะเน้นบริหารด้วยแนวคิดการสร้างกิจกรรมนันทนาการ ทำให้ผู้เข้าพักสามารถมีกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ร่วมกัน และให้ผู้เช่าอยู่มีความผูกพันกับเพื่อนบ้าน และมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจต่อสัญญาเช่าต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น
นางสาวรัชดา ตั้งหะรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า “โครงการ HOMA เป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนจาก BOI เป็นบริษัทต่างชาติที่สามารถซื้อและครอบครองที่ดินในไทยได้แบบ 100% โดยไม่ต้องมีคนไทยร่วมครอบครอง และยังสามารถขายกิจการให้กับนักลงทุนทั้งต่างชาติและคนไทยได้ ถือเป็นการขยายวงของนักลงทุนที่สนใจเข้าซื้อกิจการของ HOMA ด้วยศักยภาพพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของกองทุนหลัก บลจ. ยูโอบี เชื่อว่าอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวจะสามารถมี Exit Strategies ได้ ตามอายุโครงการ”
กองทุน UPREQ1-UI เป็นกองทุนที่เสนอขายให้กับลูกค้า KBank Private Banking เท่านั้น บลจ. ยูโอบี เชื่อว่ากองทุนดังกล่าว จะเป็นอีกทางเลือกการลงทุนที่เหมาะกับภาวะเศรษฐกิจผันผวนนี้ เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในหน่วย Private Equity ซึ่งลงทุนในบริษัทนอกตลาด (Private Asset) ที่มีผู้เชียวชาญการบริหารอสังหาริมทรัพย์ กองทุนจะมีอายุโครงการประมาณ 7 ปี สำหรับลูกค้าที่สนใจ สอบถามข้อมูลบริการเพิ่มเติมติดต่อไพรเวทแบงก์เกอร์ที่ดูแลหรือติดต่อ KBank Private Banking Contact Center 02–888–8811 หรือที่ บลจ. ยูโอบี โทร. 0-2786-2222
คำเตือน
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- ผลการดำเนินงานในอดีต/ ผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- กองทุนนี้เป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
- การลงทุนในกองทุนนี้มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน ซึ่งมีความแตกต่างจากการลงทุนในกองทุนรวมทั่วไป แม้ว่าผู้ลงทุนจะเคยมีประสบการณ์ในการลงทุนหรือทำธุรกรรมในผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมาก่อน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจถึงลักษณะความเสี่ยง แลเงื่อนไขเฉพาะตัวของกองทุนรวมนี้และขอคำแนะนำเพิ่มเติมจาก บลจ. หรือผู้สนับสนุนการขาย ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
- กองทุนนี้ไม่ถูกจำกัดความเสี่ยงด้านการลงทุนเช่นเดียวกับกองทุนรวมทั่วไป และมีการลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกและกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ จึงเหมาะกับผู้ลงทุนที่รับผลขาดทุนระดับสูงได้เท่านั้น
- ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลาประมาณ 7 ปี หรืออาจมีการขยายระยะเวลามากกว่า 7 ปีได้ ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
- การลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอาจทําให้ได้รับเงินคืนตํ่ากว่าเงินลงทุนเริ่มแรก โดยมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน
- ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน
- กองทุนรวมนี้กระจุกตัวในประเทศไทย ผู้ลงทุนจึงควรพิจารณาการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวมของตนเองด้วย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon