ผู้ถือหุ้นรายย่อย STARK ร่วมลงชื่อต่อสู้แล้ว 660 ราย รวมมูลค่าเสียหายทะลุ 1 พันลบ. พร้อมเปิดให้ร่วมลงชื่อผ่านลิงก์จนถึง 25 มิ.ย.

612

 

มิติหุ้น – ผู้เสียหายรายย่อยจากการลงทุนหุ้น STARK รวมตัวเข้าชื่อเพื่อต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมล่าสุดมากกว่า  660 ราย ความเสียหายทะลุ พันล้านบาท โดยขณะนี้ยังเปิดให้ผู้เสียหายมาร่วมลงทะเบียนอย่างต่อเนื่องเพื่อรวมตัวฟ้องคดีกลุ่มเรียกค่าเสียหาย ขีดเส้นภายใน 25 มิถุนายนนี้ หลังจากที่มูลค่าหุ้นประมาณ 7 หมื่นล้านบาทละลายแทบเป็นศูนย์

ดร.ณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน ต้นธารคอร์ปอเรชั่น จำกัด แถลงความคืบหน้าในการรวมตัวของผู้ลงทุนรายย่อยหุ้นจากการลงทุนในหุ้น บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) STARK ว่า ได้มีผู้เข้าชื่อกันแล้วถึงล่าสุดนี้มากกว่า 661 ราย รวมมูลค่าความเสียหายเกินกว่า 1,100 ล้านบาท โดยจะรวบรวมผู้เสียหายไปจนถึงวันที่ 25 มิถุนายนนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าชื่อร่วมดำเนินคดีกลุ่มไม่ต่ำกว่า 1,000 ราย จากผู้ถือหุ้นทั้งหมดมากกว่า 10,000 ราย

ทั้งนี้หุ้น STARK เคยมีมูลค่าสูงสุดตามราคาตลาด ตอนราคา 5.50 บาท อยู่ที่ 73,733 ล้านบาท ล่าสุดถึงวันนี้ (21มิถุนายน) ราคาหุ้นลงมาต่ำสุดที่ 0.01 บาท ซึ่งเป็นราคาต่ำสุดที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนด หรือเหลือเพียง 135 ล้านบาท เท่ากับเงินละลายไปกับหุ้นตัวนี้มากถึง 73,598 ล้านบาท โดยผู้ลงทุนหุ้นสามัญกับหุ้นตัวนี้เป็นผู้แบกรับความเสียหาย แทบจะกลายเป็นศูนย์ เมื่อเทียบกับเจ้าหนี้มีหลักประกัน เจ้าหนี้การค้า เจ้าหนี้หุ้นกู้ที่ยังอาจพอมีหวังได้รับเฉลี่ยหนี้คืนบ้าง แต่กับนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ก็มีคำเตือนกันไว้แล้วว่า”การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง” แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องเป็นความเสี่ยงจากความผิดพลาดในการลงทุนตามปกติธุรกิจ แต่กรณี STARK เกิดจากการกระทำอันไม่สุจริตของผู้เกี่ยวข้อง ทางผู้ถือหุ้นรายย่อยจึงได้รวมตัวกันขึ้นเพื่อรวมรวมหลักฐานในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม เพื่อดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีแบบฟ้องหมู่ หรือ Class Action

โดยนักลงทุนรายย่อยที่ตกเป็นเหยื่อ ได้รับความเสียหายจากมูลค่าหุ้น 73,733ล้ านบาท จนแทบจะกลายเป็นศูนย์ในตอนนี้ได้รับการประสานงานสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ให้กรอกแบบฟอร์มข้อมูลหลักฐานเพื่อดำเนินคดีแบบกลุ่ม โดยขอให้กรอกตามลิงก์  HYPERLINK “https://forms.office.com/pages/responsepage.aspx?id=aJ9E3Ee9S0OiOxK7CpqamjI1gLgEUbBAlZJsmC7nqsNUQlFYMThKMDMwQUJQT1pIOFNBSFlLT1c2UyQlQCNjPTEu&origin=QRCode&fbclid=IwAR2-kRRV-FEuNOO70RuihGlbVZz_5w0RVZgDbSjMuqT8lHaQH9GA_nzfLWU ภายใน” https://forms.office.com/pages/responsepage.aspx?id=aJ9E3Ee9S0OiOxK7CpqamjI1gLgEUbBAlZJsmC7nqsNUQlFYMThKMDMwQUJQT1pIOFNBSFlLT1c2UyQlQCNjPTEu&origin=QRCode&fbclid=IwAR2-kRRV-FEuNOO70RuihGlbVZz_5w0RVZgDbSjMuqT8lHaQH9GA_nzfLWU ภายในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ได้กำหนดให้หุ้น STARK ซื้อขายถึงวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เป็นวันสุดท้าย และอาจจะห้ามการซื้อขายยาวระหว่างการฟื้นฟูกิจการ และตอนนี้ราคาก็ลงมาต่ำสุดที่ตลาดกำหนดแล้ว หากเหยื่อผู้เสียหายจะเข้าชื่อกันก็เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

ทั้งนี้ในจำนวนที่เข้าชื่อกันมา มีผู้เสียหายตั้งแต่ระดับหลักหมื่นบาท ไปสูงสุดถึงหลักร้อยล้านบาท การดำเนินคดีแบบกลุ่มดังกล่าว ในกรณีทำนองเดียวกันนี้มีบทเรียนว่าผู้เสียหายชนะคดีมาแล้ว และได้รับเฉลี่ยเงินคืน ส่วนคนที่ไม่เข้าชื่อขอเรียกร้องสิทธิ์ก็ย่อมไม่ได้รับประโยชน์ หรือคสามเป็นธรรมใดๆ จึงขอเชิญชวนให้ลงชื่อตามกำหนด

การฟ้องร้องดำเนินคดีแบบกลุ่มดังกล่าว จะมีการแต่งตั้งผู้แทนของเหยื่อผู้เสียหายเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ที่เหลือทั้งหมดเพียงแต่รวบรวมหลักฐานความเสียหายร่วมยื่นฟ้องเท่านั้น  ทั้งนี้ได้มีนักกฎหมาย ทนายความผู้รักความเป็นธรรม เชี่ยวชาญทั้งคดีกลุ่ม คดีธุรกิจร่วมกันเข้ามาเป็นผู้ดำเนินการตามกฏหมาย เพื่อหวังจะให้เกิดความยุติธรรม เกิดบทเรียน และป้องปรามพฤติการณ์ฉ้อฉลในตลาดหุ้นในอนาคตต่อไป

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon