บล.เอเซีย พลัส ชี้การเมืองไทยตัวแปรสำคัญต่อตลาดหุ้นไทย แนะ 7 หุ้นเด่น น่าเก็บเข้าพอร์ต

117

มิติหุ้นนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส หรือ ASPS ประเมินกรอบดัชนีหุ้นไทย Q3/66 เคลื่อนไหวในกรอบแนวต้าน 1,545-1,575 จุด แนวรับ 1,480 จุด โดยประเด็นสำคัญคือ ความชัดเจนทางการเมือง หากสามารถเลือกนายกได้เร็ว และมีเสถียรภาพ เชื่อว่าดัชนีมีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน1,600 จุดได้ ในปีนี้

ทั้งนี้ยังมีประเด็นที่กดดัน จากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกัน 6 ครั้ง อยู่ที่ระดับ 2% และคาดว่าครึ่งปีหลังจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ซึ่งจะทำให้มูลค่าซื้อขายให้ตลาดหุ้นลดลง จากสถิติถ้ามูลค่าซื้อขาย ต่ำกว่า5 หมื่นลบ. SET มีโอกาสปรับตัวลงเฉลี่ยต่อวัน 0.06% หากดัชนีลงมาทดสอบแนวรับ 1,480 จุด เป็นโอกาสเข้าซื้อหุ้น

อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นไทยครึ่งปีแรก ติดลบ 9.9% เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะกลับมาเป็นบวกได้ ถ้าการเมืองชัดเจนและมีเสถียรภาพ จะดึงให้ Fund Flow ไหลกลับมา ช่วยให้มูลค่าการซื้อขายมากขึ้น ซึ่งถ้ามูลค่ามากกว่า 5 หมื่นลบ. SET มีโอกาสปรับตัวขึ้นเฉลี่ยต่อวัน 0.03% ให้สัดส่วนการลงทุน หุ้นไทย 30% ,หุ้นต่างประเทศ 30% ,ตราสารหนี้ 15% ,เงินสด 15% ,สินทรัพย์ทางเลือก 10%

หุ้นแนะนำ III ราคาเป้าหมาย 18.10 บาท , SCGP ราคาเป้าหมาย 56.00 บาท , BEM ราคาเป้าหมาย 11.50 บาท , IVL ราคาเป้าหมาย 44.00 บาท , SCB ราคาเป้าหมาย 132.00 บาท , JMT ราคาเป้าหมาย 37.50 บาท , ERW ราคาเป้าหมาย 5.70 บาท

ทางด้านดร.วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ หรือ TRINITY เปิดเผยว่า มองกรอบดัชนีหุ้นไทย ในQ3/66 บริเวณแนวต้าน 1,552 จุด แนวรับ 1,450 จุด มองว่าดัชนีลงมาต่ำ ทำให้หุ้นไทยถูกลงและเป็นโอกาสในการเข้ามาเก็บหุ้น โดยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการเติบโตเศรษฐกิจและสภาพคล่อง ทั่วโลกจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะถึงดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนก.. 66 มองว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้ง ก่อนที่จะหยุดขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงคาดกนง. จะขึ้นอีก 0.25% ในเดือนส.. 66 อีกเพียง 1 ครั้ง

ในช่วง Q4/66 คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะฟื้นตัวได้ดีกว่าตลาดหุ้นรอบโลก ที่บริเวณแนวต้าน 1,600 จุด จากการที่ตลาดได้ตอบรับปัจจัยลบใน Q3/66 แล้ว รวมถึงภาพรวมทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น และอาจเห็นตัวเลขส่งออกไทยกลับมาเป็นบวก ทั้งนี้ปัจจัยหลักสำคัญที่หนุนเศรษฐกิจคือการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้น มีสัดส่วนกว่า 10% ของ GDP ส่งผลให้ต่างชาติจะไหลกลับมามากขึ้น ขายหุ้นไทยน้อยลง โดยมองว่า Fund Flow จะกลับมาที่ตลาดตราสารนี้ก่อนตามด้วยตลาดทุน แนะลงทุนในตราสารหนี้ 40% ,หุ้นไทย 20% ,หุ้นต่างประเทศ 20% ,ทองคำ 10% และเงินสด10%

 

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon