มิติหุ้น-นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ก.ค.66 ได้เดินทางไปยังDSI เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษอดีตผู้บริหาร STARK จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการ 2. นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ อดีตกรรมการบริษัทฯ และCFO และ3. น.ส.ยสบวร อำมฤต เลขานุการของนายชนินทร์ และ ผู้อำนวยการสายงานทรัพยากรบุคคล
เนื่องจากเห็นว่าเข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพทย์และตลาดหลักทรัพย์ กรณียักยอกเงิน STARK มาใช้ประโยชน์ส่วนตน
พร้อมกับชี้แจงความเกี่ยวข้องกับ บจก.เฟ้ลปส์ ดอดจ์ฯ ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นโดยตรง เป็นเพียงกรรมการ ขณะที่บจก.เอเซีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอนจิเนียริ่ง เป็นเพียงผู้ถือหุ้น ไม่ได้เป็นกรรมการบริษัท ไม่เคยรับทราบเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท
ส่วนกรณีของบจก.ไทยเคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นผู้ถือหุ้น และดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการบริษัท แต่ไม่ใช่กรรมการผู้มีอำนาจกระทำแทนบริษัท จึงไม่เคยเข้าร่วมประชุมกรรมการและไม่เคยเกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจการของบริษัทดังกล่าว
“สาเหตุที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษ นายชนิทร์และพวกในครั้งนี้ เนื่องจากในปี 65 ได้รับแจ้งจาก PWC ในฐานะผู้สอบบัญชีรับอนุญาตว่า PWC ไม่สามารถรับรองงบปี 65 ของSTARK ได้ เพราะไม่ได้รับความร่วมมือจากผู้บริหารในการให้ข้อมูล ขณะเดียวกันยังได้พบความผิดปกติมีการตกแต่งบัญชีให้มีผลประกอบการสูงขึ้น ซึ่งตนเองคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องหาความชัดเจน จึงได้เข้าไปคุยกับนายชนินทร์ในตอนนั้น ทางนายชนินทร์ ได้ตอบกลับมาว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดในการลงบัญชีและจะแก้ปัญหาเอง ซึ่งตนตั้งข้อสงสัยว่านายชนินทร์ จะปกปิดข้อมูลบางอย่างและอาจมีส่วนเกี่ยวข้องในความผิดปกติทางบัญชีครั้งนี้ จึงปรึกษากับที่ปรึกษาทางกฎหมาย เพื่อเข้าควบคุมการบริหาร บมจ.สตาร์คฯ โดยเปลี่ยนกลุ่มผู้บริหารชุดใหม่ทั้งหมด เพราะตนเองเริ่มมั่นใจแล้วว่าถูกหลอกลวงจากนายชนินทร์และนายศรัทธาอย่างแน่นอน”
นายวนรัชต์ กล่าวอีกว่า ตนเองเป็นเพียงผู้ลงทุน โดยตนเองขอยืนยันว่าเป็นเพียงนักลงทุน และมีชื่อเป็นเพียงหนึ่งในคณะกรรมการของ STARK และ เฟ้ลปส์ ดอดจ์ฯ เท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการบริหารจัดการที่ดำเนินการในบริษัทดังกล่าวแต่อย่างใด
นอกจากนี้ขอยืนยันว่าไม่ได้รับประโยชน์จากการตกแต่งบัญชีของ STARK และ เฟ้ลปส์ ดอดจ์ฯ รวมถึงบริษัทในเครือและบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ในทางกลับกันเป็นผู้เสียหาย เพราะมีหนี้ค้ำประกันสินเชื่อของบริษัททั้งสองต่อสถาบันการเงิน รวมเป็นวงเงินมากกว่า 10,000 ล้านบาท เนื่องจากในการทำธุรกรรมทาง การเงินต่างๆ กับสถาบันการเงิน นายชนินทร์จะให้ตนเองเป็นคนลงนามในเอกสารของธนาคาร และเป็นผู้ค้ำประกันหนี้สินเชื่อในฐานะส่วนตัวทั้งหมด
นายวนรัชต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ขณะนี้เตรียมรวบรวมหลักฐานการกล่าวพาดพิงของนายศรัทธา และผู้กล่าวอ้างรายอื่นๆ จากทุกช่องทาง และเตรียมเข้าพบกับทาง ก.ล.ต. เพื่อให้ข้อมูลครั้งที่ 2 และสาเหตุของการประกาศลาออกจากกรรมการ ของ STARK เพื่อให้การดำเนินการสอบสวนของ ก.ล.ต. เป็นไปได้อย่างยุติธรรม
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon