TOP วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

202

ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม จากความกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม จากความกังวลอุปทานน้ำมันดิบตึงตัว หลังซาอุดีอาระเบียและรัสเซียประกาศลดกำลังการผลิตเพิ่มในสัปดาห์นี้ ซึ่งส่งผลให้กำลังการผลิตรวมของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร (OPEC+) ลดลง 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือประมาณ 5% ของความต้องการใช้น้ำมันของโลก นักวิเคราะห์คาดว่า การปรับลดกำลังการผลิตของ OPEC+ จะทำให้ตลาดตึงตัวขึ้น และส่งผลให้เกิดการขาดดุลอุปทานในช่วงครึ่งหลังของปี 66 ซึ่งจะสนับสนุนให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น

+ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจาก ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง โดยดัชนีดอลลาร์ปรับลดลง 0.64% แตะระดับ 102.41  ส่งผลให้ความน่าสนใจในการลงทุนในตลาดน้ำมันเพิ่มขึ้น สำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น เนื่องจากสัญญาน้ำมันดิบจะมีราคาถูกลง

+/- Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 7 ก.ค. ปรับลดลงจำนวน 5 แท่นมาอยู่ที่ระดับ 540 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ เม.ย. 65 ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับเพิ่มขึ้น 11 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 135 แท่น

ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากความต้องการใช้น้ำมันเบนซินที่สูงขึ้นของสหรัฐฯ ในช่วงวันหยุดวันประกาศอิสรภาพ และน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลง 2.55 ล้านบาร์เรลแตะระดับ 219.456 ล้านบาร์เรล

ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ ปรับลดลง 3.67% แตะระดับ 7.69 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง